ด้วยรักและผูกพัน!เดนมาร์กยกอีริคเซ่นคือแรงผลักดันเข้ารอบรองฯยูโร

แคสเปอร์ ฮูลมันด์ กุนซือทีมชาติเดนมาร์ก เปิดเผยว่า คริสเตียน อีริคเซ่น เป็นแรงผลักดันให้ทุกคนในทีมรวมใจกันสู้จนสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปีที่เข้าถึงรอบนี้

ทัพโคนมออกสตาร์ตรอบแบ่งกลุ่มด้วยการปราชัย 2 เกมแรกก่อนเค้นฟอร์มเอาชนะรัสเซีย 4-1 ในเกมสุดท้ายพลิกสถานการณ์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มโดยยังฟอร์มฮอตต่อเนื่องถล่มเวลส์ 4-0 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปเฉือนชนะเช็ก 2-1 ทำให้เข้ารอบรองชนะเลิศไปพบอังกฤษ วันที่ 7 กรกฎาคมนี้

ฮูลมันด์ นายใหญ่ทัพโคนมเปิดใจว่าทุกคนในทีมยังคงคิดถึง คริสเตียน อีริคเซ่น อยู่เสมอหลังจากห้องเครื่องตัวเก่ง วัย 29 ปีต้องยุติศึกยูโร 2020 ด้วยการลงเล่นเพียง 41 นาทีเท่านั้นเมื่อเจ้าตัววูบหมดสติในรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ก่อนทีมแพทย์ยื้อชีวิตไว้ได้และเจ้าตัวออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว

ฮูลมันด์ ยังระบุด้วยว่า อีริคเซ่น กลายเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนในทีมรวมใจกันสู้จนมีลุ้นสร้างปาฏิหาริย์เหมือนศึกยูโร 1992 ที่ได้สิทธิ์มาแทน ยูโกสลาเวีย ที่เกิดสงครามกลางเมืองก่อนแข่งเพียงแค่ 10 วันจนแทบไม่ได้ซ้อมแต่สุดท้ายคว้าแชมป์มาครองแบบพลิกความคาดหมาย

"เราทุกคนตระหนักว่าคุณค่าของฟุตบอลขึ้นอยู่กับอะไร และเราได้รับสิ่งเตือนใจจากเรื่องนี้"

"ผมคิดถึง คริสเตียน ตลอดเวลาในทุกๆ วัน ซึ่งเขาควรได้มาอยู่กับเราที่นี่ เราดีใจมากที่เขายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเราพาเขามาด้วยกันตลอดทางจนถึงแมตช์นี้และต่อเนื่องไปจนถึงเวมบลีย์"

"เราทุกคนเข้าใจดีว่าสิ่งนี้คือคุณค่าของฟุตบอล และบางทีเราอาจเป็นสัญลักษณ์ของมัน ซึ่งทีมของเราได้แสดงมันออกมาโดยไม่ต้องมีคำพูดคำจาใดๆ"

"มันเหลือเชื่อมากที่เห็นการตอบสนองของทีมนี้ และได้เห็นว่าพวกเขามีความรักความผูกพันกันมากแค่ไหน ซึ่งอาจรวมถึงชาวเดนมาร์กด้วย เรามีความสุขและภูมิใจที่ได้ตระหนักว่าทำไมเราถึงรักฟุตบอล และแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ฟุตบอลสามารถขับเคลื่อนได้บนโลกใบนี้"