เปิดประวัติ 'คีแรน ทริปเปียร์' แบ็คขวาจอมปั่นฟรีคิกความหวังนิวคาสเซิลที่ดวงแตกไปแล้ว

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : คีแรน จอห์น ทริปเปียร์

เกิดวันที่ 19 ก.ย. 1990

อายุ 31 ปี

เกิดที่ เมืองบิวรี่ , ประเทศอังกฤษ

ส่วนสูง 173 เซนติเมตร

คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวาเท้าชั่งทองสังกัด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน เกิดและโตที่เมืองบิวรี่ จนกระทั่งอายุ 9 ขวบ ในปี 2009 เขามีโอกาสได้เข้าร่วมอะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นับเป็นใบเบิกทางในเส้นทางฟุตบอลของเด็กน้อยรายนี้ เจ้าตัวรับใช้ทีมเยาวชนของเรือใบสีฟ้า จนกระทั่งได้สัญญาอาชีพเต็มตัวฉบับแรกในปี 2009 หรือในวัย 19 ปี นั่นเอง แต่ด้วยความที่ในฤดูกาลนั้นทีมมีทั้ง ปาโบล ซาบาเลต้า , ไมก้า ริชาร์ดส และ เนดุม โอนูโอฮา อยู่แล้วในตำแหน่งแบ็คขวา จึงทำให้โอกาสของทริปเปียร์ที่เป็นดาวรุ่งไม่มีสิทธิ์แตะต้อง จึงถูกส่งไปให้ บาร์นสลี่ย์ ในเดอะแชมเปี้ยนชิพ ยืมใช้งาน

โดยในปีแรกเขาก็ยังไม่สามารถลงสนามได้เต็มหน่วยเท่าไหร่นักจากปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้ขอพิสูจน์ตัวเองกับ เจ้าตูบ ในซีซั่น 2010-2011 ต่อเนื่อง รวมสองฤดูกาลลงเล่นไป 44 นัด ทำได้ 2 ประตู ก่อนที่ฟอร์มจะไปเตะตา เบิร์นลี่ย์ ที๋โลดแล่นอยู่ในลีกรองเช่นกันดึงตัวไปใช้งาน ในซีซั่น 2011-2012 เพื่อแทนที่ ไทโรน เมียส์ ที่มีอาการบาดเจ็บยาวด้วยสัญญาซื้อขาด (ไม่เปิดเผยค่าตัว) ทำให้เขามีโอกาสได้เล่นอย่างเต็มที่ กระทั่งยึดตัวหลักของทีมทันที โดยตลอดสามซีซั่นในลีกรอง เขาลงเล่นฤดูกาลนึงเกิน 40 นัดทุกปี ก่อนจะทำผลงานชิ้นโบว์แดงพาทีมเลื่อนขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2013-2014 ด้วยตำแหน่งรองแชมป์เดอะแชมเปี้ยนชิพ

หลังขึ้นมาโลดแล่นบนลีกสูงสุดเป็นปีแรกในฤดูกาล 2014-2015 ขณะนั้นเขาอายุ 24 ปี ก็ยังคงเป็นตัวหลัก ลงเล่น 38 นัดให้กับเบิร์นลี่ย์ แม้ทีมจะจบรองบ๊วยตกชั้นกลับไปอีกครั้ง แต่ตัวของ ทริปเปียร์ ไม่กลับไปด้วย เมื่อมี สเปอร์ส ที่แสดงความสนใจก่อนจะควักเงิน 3.5 ล้านปอนด์ ดึงตัวมาร่วมทีมทันที ส่งผลให้เขายุติเส้นทางกับเบิร์นลี่ย์ไว้ 4 ฤดูกาล ลงสนาม 185 นัด ยิง 7 ประตู

ทันทีที่ ทริปเปียร์ วัย 25 ปี มาอยู่กับสเปอร์ส ในขณะนั้น แน่นอนว่าเขามาเพื่อเป็นแบ็คอัพของ ไคล์ วอล์คเกอร์ เจ้าของสัมปทานแบ็คขวาที่มาแรงสุดๆ ทำให้มีโอกาสลงเล่นค่อนข้างน้อย แต่ด้วยมีทีเด็ดจากลูกฟรีคิกและตั้งเตะต่างๆ ทำให้เขามีประโยชน์ยามที่ทีมหวังจากลูกนิ่งต่างๆ และมักจะได้ลงมาในช่วงท้าย กระทั่งเดินมางมาถึงซัมเมอร์ 2017 ทางด้านของ วอล์คเกอร์ ถูกขายไปให้ แมนฯ ซิตี้ ด้วยค่าตัวมหาศาลกว่า 50 ล้านปอนด์ เพื่อช่วยสเปอร์สในการปลดหนี้สร้างสนาม ทำให้โอกาสของ ทริปเปียร์ ที่เฝ้ารอมานาน มาถึงเสียที

ซีซั่น 2017-2018 เขาได้ลงเล่นมากขึ้น แต่ก็มีฟอร์มหลุด และอาการบาดเจ็บรบกวนบ้าง ทำให้ต้องสลับไปนั่งอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งในปี 2018-2019 เขาได้ฉายแสงเต็มที่ พาสเปอร์ส เข้ารอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็ดันไปแพ้ลิเวอร์พูล 0-2 อย่างน่าเจ็บใจ ทว่าฟอร์มการเล่นของเขาถูกจับตามอง และได้ไปลุยฟุตบอลโลก 2018 กับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งก็ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่นานาชาติครั้งแรกเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถซัดฟรีคิกในฟุตบอลโลก ที่รัสเซีย ใส่ทีมชาติโครเอเชียในรอบน็อคเอาท์ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจบฤดูกาล 2019 ชีพจรลงเท้าเขาอีกครั้ง เมื่อ แอตเลติโก มาดริด จากลา ลีกา สเปน ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 20 ล้านปอนด์ คว้าเขาออกมาจากสเปอร์สได้ด้วยสัญญา 3 ปี ส่งผลให้ ทริปเปียร์ ในวัย 29 ปี ได้ไปเล่นในแดนกระทิงดุ แม้ก่อนหน้านั้นจะได้รับความสนใจจากหลายทีมบนพรีเมียร์ลีกก็ตาม ก่อนที่จะกลายเป็นตัวหลักของตราหมี และพาทีมประกาศศักดาคว้าแชมป์ ลาลีกา ในซีซั่น 2020-2021 แบบแฟนตะลึงหักปากกาเซียนเลยทีเดียว

ชีวิตที่สเปนของเขาถือว่าไปได้ด้วยดี แต่ก็มามีปัญหาการต่อสัญญาฉบับใหม่ ที่ตราหมี ไม่สามารถให้ข้อตกลงตามที่ ทริปเปียร์ ต้องการได้ ก่อนจะเป็น นิวคาสเซิล ทีมเศรษฐีใหม่ ขอซื้อมาร่วมทีมในเดือน ม.ค. 2022 ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ แม้ว่าสัญญาจะเหลือเพียงแค่ 6 เดือน ก็จะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ 2022 ทันทีก็ตาม โดยเขาได้สัญญากับสาลิกาดง สองปีครึ่ง พร้อมออปชั่นต่อเพิ่ม ซึ่งทันทีทีลงสนามช่วยทีมที่กำลังเป๋ต้องลุ้นหนีตกชั้นอย่างหนัก เขาก็ช่วยทำให้เกมรับของทีมแน่นขึ้นและมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะต่างๆตามสไตล์

ประตูแรกของ ทริปเปียร์ กับนิวคาสเซิล มาในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ชนะเอฟเวอร์ตัน 3-1 ก่อนที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะซัดใส่ แอสตัน วิลล่า เป็นประตูชัย 1-0 ส่งผลให้สามนัดหลังสุดในเกมที่ 21-23 ทัพสาลิกาดง ชนะรวด และไม่แพ้ใครมา 5 นัดซ้อนเข้าไปแล้ว ถีบตัวเองหนีโซนตกชั้นขึ้นมามีแต้มเหนือ นอริช ซิตี้ 4 แต้ม แข่งน้อยกว่า 1 นัด นับเป็นการพลิกชะตาของทีมแบบสุดๆ เนื่องจากตอนคริสมาสต์พวกเขายังเป็นบ๊วย และชนะใครยากเย็นแสนเข็นเหลือเกิน ทว่าความโชคร้ายก็บังเกิด เมื่อแบ็คขวาตัวความหวัง ได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกจากนัดชนะวิลล่า ทำให้ต้องผ่าตัด และมีรายงานว่าจะต้องพักอย่างน้อยๆสองเดือนเลยทีเดียว

ทั้งนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่า ทริปเปียร์ จะกลับมาช่วยนิวคาสเซิลในช่วงท้ายฤดูกาลได้หรือไม่ ? ทัพสาลิกาดจะรอดพ้นจากการตกชั้นหรือไม่ ? แต่เชื่อเหลือเกินว่าแฟนๆคงอยากจะให้ ทริปเปียร์ กลับมาโดยไวที่สุดอย่างแน่นอน

ส่วนผลงานในทีมชาติอังกฤษ เขาติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ 2017 จนถึงปัจจุบัน คว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2018 และรองแชมป์ยูโร 2020 ลงเล่นทั้งสิ้น 35 นัด ยิงไป 1 ประตู

เกียรติประวัติส่วนตัว (เเชมป์)

แมนฯ ซิตี้

เอฟเอ ยูธ คัพ 2007-08  

แอตเลติโก มาดริด 

ลา ลีกา สเปน 2020-21

ภาพจาก : AFP