ย้อนรอย 'Parasite' ความสำเร็จที่ทลายกำแพงภาษาในวงการภาพยนตร์โลก
ย้อนรอยความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง Parasite จากเกาหลีใต้ คว้า 4 รางวัลใหญ่บนเวทีออสการ์ เปิดประตูให้กับภาพยนตร์ต่างชาติได้สำเร็จ
ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง Parasite ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 92 เป็นการพลิกประวัติศาสตร์ให้กับวงการภาพยนตร์ทั่วโลกได้สำเร็จ เพราะไม่เพียงแค่เป็นภาพยนตร์จากเกาหลี หรือเอเชีย แต่กลับเป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่คว้ารางวัลนี้ในเวทีออสการ์ และยังส่งให้ "บงจุนโฮ" คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยัง ได้รับรางวัลภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม รวม 4 รางวัล
ถือว่ากวาดไปมากที่สุดในปีนี้จากการเข้าชิง 6 รางวัล นอกจากจะเป็นความสำเร็จของทีมงานภาพยนตร์ก็ยังถือเป็นผลของความสำเร็จของเกาหลีใต้อีกด้วย ที่รัฐบาลได้สร้างยุทธศาสตร์ หวังใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาศักยภาพตัวเองไปสู่ระดับสากล และสร้าง “สินค้าทางวัฒนธรรม” ทั้งวรรณกรรม ดนตรี ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และสื่อบันเทิงต่าง ๆ
"บงจุนโฮ" ผู้กำกับวัย 50 ปี ได้เริ่มกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกเมื่อปี 2000 ก่อนจะสั่งสมฝีมือมาเรื่อย ๆ จนก้าวเข้าวงการฮอลลีวูด 10 ปีก่อนชื่อของเขาเป็นที่รู้จักจากเรื่อง "Mother" ได้ไปเทศกาลหนังต่างๆ ทั่วโลก ในปี 2013 เรื่อง Snowpiercer ได้ 2 นักแสดงดังอย่าง "คริส อีแวนส์" และ "ทิลดา สวินตัน" มาร่วมงาน และ 4 ปีถัดมาก็ได้สร้างผลงานเรื่อง Okja (อ้อกจา) ที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงกัน ถึงความไม่เหมาะสมในการเข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำ เนื่องจากหนังเน้นฉายผ่านเน็ตฟลิกซ์ มากกว่าในโรงภาพยนตร์ แต่เมื่อภาพยนตร์ฉายจบในงานก็ได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง ทำให้บงจุนโฮ กลายเป็นผู้กำกับเอเชียแถวหน้า ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งหนังเกาหลียุคใหม่”
ล่าสุด Parasite แนวดราม่า-ระทึกขวัญเสียดสีสังคม หยิบเรื่องของชนชั้นในระบบทุนนิยมมาเล่าผ่าน 2 ครอบครัว คว้าแชมป์ภาพยนตร์เกาหลีที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล ชนะแชมป์เก่าอย่าง TRAIN TO BUSAN
PARASITE เปิดตัวที่ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 72 และยังคว้ารางวัลปาล์มทองคำไปครองได้ เป็นใบเบิกทางให้ภาพยนตร์เกาหลีเรื่องนี้ออกฉายทั่วโลก แม้การเล่าเรื่องจะมีนำเสนอผ่านวัฒนธรรมของชาวเอเชียเป็นหลัก แต่ประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมก็เป็นส่วนหลักที่เหมือนภาษาสากลทำให้คนหลายชาติเข้าถึงได้
ก่อนจะเดินสายรับรางวัลในเวทีใหญ่ระดับโลกอีกมากมาย อาทิ รางวัล Screen Actors Guild จากเวที SAG Awards ครั้งที่ 26 รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ 2020 ซึ่ง “บงจุนโฮ” ได้กล่าวบนเวทีว่า “เมื่อไหร่ที่คุณสามารถก้าวผ่านกำแพงความสูง 1 นิ้วที่เรียกว่า ซับไตเติ้ลไปได้คุณจะได้รู้จักกับภาพยนตร์ที่น่าทึ่งอีกมากมาย ผมคิดว่าเราใช้ภาษาเดียวกันนั่นคือภาพยนตร์ครับ” และการคว้า 4 รางวัลใหญ่ในออสการ์นี้ถือเป็นการเปิดประตูในกับภาพยนตร์ทั่วโลก ในทุกชาติทุกภาษา ที่จะมีโอกาสได้เป็นที่รู้จักและก้าวสู่เวทีโลก
