ความภาคภูมิใจของสยามประเทศ "ทวิภพ"

ใครที่ชื่นชอบหนังที่แม่หญิงสมัยใหม่ย้อนรอยกลับไปในอดีตกาล “ทวิภพ” จัดอยู่ในลิสต์แรกที่ฝังอยู่ในใจ ขนาดออเจ้าดังๆช่วงนั้น คนยังหันกลับมาดู “ทวิภพ” ตาม “แม่มณี” กันเป็นแถว 

 

ทีนี้มาดู “ทวิภพ” ฉบับทุนสร้างมหาศาล หรือ “The Siam Renaissance”  สร้างโดย บริษัท ฟิล์ม บางกอก จำกัด ด้วยทุนถึง 100 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น โดยผู้สร้างได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเรื่องให้แตกต่างจากบทประพันธ์ในฉบับดั้งเดิมที่เคยเน้นเรื่องราวความรักโรแมกติกข้ามภพ 

โดยมีฉากหลังเป็นบรรยากาศสังคมและการเมืองของประเทศสยามในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ยุคแห่งการล่าอาณานิคมจากตะวันตก ที่สุดท้ายสยามต้องสูญเสียดินแดนไปในช่วงวิกฤต ร.ศ. 112 ให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่เข้มข้นขึ้น

                                                                             ภาพจาก TrueVisions

หากจะบอกว่าเสน่ห์เรื่องรักกุ๊กกิ๊กของ “แม่มณี” กับ “หลวงอัครเทพ” ที่ถือเป็นจุดขายหายไปก็ใช่ แต่เราเห็นมาแล้วในหลายเวอร์ชันทั้งหนัง ละคร และละครเวที เวอร์ชันนี้จึงเน้นไปที่คุณค่าทางวัฒนธรรม   โดยได้นักแสดงนำ อย่าง “ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์” ประกบคู่กับ “รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง”

เรื่องราวของหญิงสาวไทยยุคปัจจุบันที่หลงมิติไปอยู่ในสยาม สมัยแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศมหาอำนาจทางตะวันตกพยายามจะเข้ามายึดครอง เริ่มจากลูกสาวนักการทูตชื่อ มณีจันทร์ (ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์) เธอถูกใจกระจกเก่าบานหนึ่ง และตัดสินใจซื้อกลับมาไว้ที่ห้องนอน โดยที่ตัวเธอเองไม่รู้ว่ากระจกบานนั้นมีสิ่งมหัศจรรย์ซ่อนอยู่

จนมาวันหนึ่งมณีจันทร์สามารถใช้กระจกย้อนกลับอดีตไปในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ และที่นั่นเธอได้พบกับหลวงอัครเทพวรากร (รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง) จนเกิดเป็นความรักข้ามกาลเวลาของหญิงสาวที่มาโลกปัจจุบันกับชายหนุ่มในอดีต โดยมีบอกเล่าประวัติศาสตร์ของสยามซึ่งกำลังประสบปัญหาการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศสและอังกฤษ

อย่างที่บอกไปว่าเวอร์ชันนี้เน้นไปที่คุณค่าทางวัฒนธรรมมากกว่าเป็นหนังรักโรแมนติก บทจึงเข้มข้น และฉากยังอลังการงานสร้าง ละเมียดละไม โดยเฉพาะบทพูดของแม่มณีในหลายๆฉากที่ซึ้งตรึงใจ เรียกว่าแม่มณีเวอร์ชันนี้คือแม่มณีที่สมาร์ทที่สุด ถือเป็นหนังที่ควรค่าแก่การสรรหามาชมยิ่งนัก