“หนูนา หนึ่งธิดา” ปัดโดนบูลลี่เรื่องรูปร่างจนทำให้หายจากวงการ
“หนูนา หนึ่งธิดา” ปัดโดนบูลลี่เรื่องรูปร่างจนทำให้หายจากวงการ ชม “จูเนียร์” มีความเป็นผู้ใหญ่มีความพร้อมเรื่องแต่งงานมากขึ้น แต่เป็นตนที่ยังไม่พร้อม
หายหน้าหายตาไปหลายปีทีเดียว สำหรับนางเอกสาวร่างเล็ก “หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ” ที่ล่าสุดตัดสินใจกลับมารับงานอีเวนต์และงานแสดงอีกครั้ง งานนี้เธอได้เผยว่า "ก็มารับงานในรอบ 3 ปีกว่า ตั้งแต่ก่อนโควิด ช่วงที่หายไปก็มีคนถามมาหลายคนมากเหมือนกันค่ะ ก็เป็นช่วงพักด้วยค่ะ คือมันเป็นช่วงปิดของชีวิต คิดว่าทุกคนต้องเจอ เคยพูดหลายครั้งแล้วว่ามัน suffer เราจะทำอะไรดี เราอยากที่จะทำอะไร ด้วยความที่เราอยู่ในวงการตั้งแต่เด็ก มันเหมือนค้นหาตัวเองว่าจริงๆ แล้วเราชอบอะไร เราอยากทำอะไร ก็เลยไปลองทำอย่างอื่น ไม่ได้หายไปไหน ไปลองหาวิธีทำหลายอย่าง ค้นหาตัวเองแต่พอได้ไปทำอย่างอื่นก็รู้สึกว่าจริงๆ สิ่งที่เราชอบมันคือการร้องเพลง การเล่นละครเวที"
ภาพจาก True Inside
ปัดหายไปเพราะโดนบูลลี่เรื่องรูปร่าง หลังจากพักงานถึงได้กินเยอะ แต่พอพักงานปุ๊บอ้วนค่ะ แต่ไม่เคยชั่งน้ำหนักเลย แต่ถามว่านอยด์กับคอมเมนต์พวกนี้ไหม เรารู้สึกว่ามันเลยจุดที่เราจะต้องมาคุยกันเรื่องแบบนี้แล้ว เพราะเราก็เป็นคนปกติทั่วไป มีอ้วนขึ้น มีผอมลง ตอนช่วงพักงานเราอาจจะอ้วนขึ้น ตอนนี้เราก็ผอมลงได้ มันเป็นเรื่องปกติ และยุคนี้แล้ว ถ้าเราร้องเพลงได้ ทำการแสดงได้ จะมาบอกว่าเธอไม่สวย เธอมันอ้วน มันก็ไม่น่าใช่ แต่หนูไม่เห็นคอมเมนต์พวกนี้นะ เพราะหนูไม่ค่อยเล่นโซเชียล แต่ก็มีนอยด์แหละถ้ามาทักว่าเราอ้วนขึ้นหรือผอมลงหรือเปล่า แต่หนูคิดว่าไม่ใช่แค่หนูที่โดน ทุกๆ คนก็คงเคยโดน ผอมก็ไม่ดี อ้วนไปก็ไม่ดี วันนี้ไม่สวยก็ไม่ดี เดินออกจากบ้านไม่แต่งหน้าก็ไม่ได้ หนูว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่เป็นธรรมชาติได้แล้ว ตอนนี้ เริ่มหันมาดูแลตัวเอง ทั้งๆ ที่เกลียดการออกกำลังกายมาก เพราะทำงานก็เลยต้องดูแลรูปร่างตัวเอง สุดท้ายอย่างที่บอกว่าเราอาจจะมีภูมิคุ้มกัน แต่บทบาทที่เราได้รับในทุกๆ เรื่องมันก็สำคัญ เราเข้าใจทุกคนที่อยากจะลดความอ้วน เพราะเราเป็นคนที่ลดความอ้วนยาก และที่สำคัญคือไม่ออกกำลังกาย แต่ตอนนี้พยายามที่จะหันไปออกกำลังกาย ก็ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ มันไม่ยากนะ การที่เราจะค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ
ภาพจาก True Inside
ส่วนเรื่องความรัก ยังไม่พร้อมเรื่องแต่ง "จูเนียร์" จริงๆ พูดเรื่องนี้ก็เข้าโหมดจริงจังอีก เพราะยุคสมัยนี้การที่เราจะมีงานแต่งงาน มันต้องมีความพร้อมด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ด้วยค่าครองชีพที่มันสูงขึ้น เราก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้ ไม่ใช่ว่าไม่คุยนะ ก็คุยกันค่ะ ถ้าไม่พร้อมแล้วถูกขอก็อีกเรื่องนึงนะ แต่เรื่องจริงอีกอย่างก็คือเขาค่อนข้างพร้อมกว่าเรา แต่ก็เป็นการคุยกันมากกว่า เพราะสุดท้ายเราสองคนคือวัยรุ่นสร้างตัวเนอะ คืออายุมันไม่รอเรา จูเนียร์เขาก็ไม่ได้เร่ง เขาก็รออยู่ พูดตรงๆ เลยเราเห็นได้ชัดเจนว่าเขาเป็นคนที่ดีขึ้น จากเมื่อก่อนเราเห็นว่าเขาเหมือนเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่น ยังรักสนุก แต่ทุกวันนี้เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ตั้งใจทำงาน และเราเห็นว่าเขาพร้อม มีเรานี่แหละที่ยังไม่พร้อม เพราะเรายังเด็กอยู่ ไม่กดดัน แต่เรารู้สึกว่าตอนนี้โลกมันค่อนข้างเครียด เราอยากสร้างอะไรดีๆ ไปในอนาคต เพราะฉะนั้นถ้าเราพร้อม เราถึงจะเอาใครเข้ามาในชีวิตได้ อีกสักกี่ปีเหรอ ก็สัก 2 ปีแล้วกัน นานไปไหม รอก่อนๆ แม่ก็เริ่มพูดแล้วค่ะ เหลือแต่เรากับคุณพ่อนี่แหละ เพราะคุณพ่อก็ยังเห็นเราเป็นเบบี๋อยู่ แต่ถ้าคุณพ่อโอเค ก็อยู่ที่การเงินแล้วล่ะตอนนี้"
ภาพจาก IG noona_nuegtida
ภาพจาก IG noona_nuegtida
ภาพจาก IG noona_nuegtida