อาการล่าสุด "พล พลาพร" อดีตพระเอกดาวพระศุกร์ หลัง "บิณฑ์" รับดูแลตลอดชีวิต

"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก เดินทางไปที่ จ.จันทบุรี เพื่อช่วยเหลือ "พล พลาพร" วัย 67 ปี อดีตพระเอกละคร "ดาวพระศุกร์" ที่เคยโด่งดังในอดีต หลังพบว่าปัจจุบันมีอาการป่วยอัมพฤกษ์จากเส้นเลือดฝอยในสมองด้านขวา เพื่อพามาดูแลต่อที่บ้านสุขสุดท้าย นนทบุรี ต่อไปเป็นที่เรียบร้อย 

ล่าสุด วันนี้ (7 ก.พ.65) นายฐิติวัฒน์ ซ้ายหนู ผู้จัดการบ้านสุขสุดท้าย เปิดเผยกับ "ทีมข่าว TNN ONLINE" ว่า อาการล่าสุดของ พล พลาพร ดีขึ้น มีสุขภาพจิตที่ดี หลังจากที่โดดเดี่ยวก็ได้มีคนดูแลใกล้ชิด มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ พร้อมกับดูแลอาหาร 3 มื้ออย่างดี 

เมื่อก่อนพี่พลมีแผลที่ข้อศอกจากนอนแล้วแขนไปเสียดสีกับพื้นปูน มือเกร็งแข็ง เมื่อได้รับการกายภาพบำบัดอาการก็ค่อยๆ ดีขึ้น สามารถพูดคุยได้พอรู้เรื่อง 

ส่วนเรื่องพี่ตึ๋ง ซึ่งเป็นพี่ชายของพี่พลโทรศัพท์มาฝากฝังไว้ก่อนตายเป็นเรื่องจริง พี่ตึ๋งโทรมาหาพี่ท็อปจริงๆ ว่าขอฝากน้องชายด้วย หลังจากนั้นก็เสียชีวิต แปลกมากเพราะว่าตอนนั้นก็ออกกำลังกายอยู่ ไม่คาดคิดว่าจะเสียชีวิต

"สำหรับบ้านสุขสุดท้ายจะดูแลพี่พลจนไปตลอดชีวิต เพราะพี่ท็อปตั้งใจไว้ว่าอยากจะให้คนที่อยู่ที่นี่มีความสุข สงบในวาระสุดท้ายของชีวิต" ผู้จัดการบ้านสุขสุดท้าย กล่าว

ก่อนหน้านี้ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เล่าในไลฟ์สดถึงเหตุผลที่เข้าช่วยเหลืออดีตพระเอกดาวพระศุกร์ว่า เนื่องมากจาก พี่ตึ๋ง อัศวิน รัตนประชา พี่ชายของ พล พลาพร อดีตพระเอกช่อง 7 จากละครดาวพระศุกร์ เล่นกับ มนฤดี ยมาภัย ที่โด่งดังมากในเมื่อก่อน โดยพี่ตึ๋งบอกว่าน้องชายกำลังแย่ ป่วยมาก เดินไม่ได้ ติดเตียง ต้องจ้างคนมาดูแล แฟนก็เลิกกัน พี่ตึ๋งจึงโทรมาบอกให้ผมรับพี่พลไปดูแลหน่อย เรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวจะจัดการให้ เพราะอยู่ที่นี่ไม่มีคนดูแลเต็มที่ 

และก่อนที่พี่ตึ๋งจะเสียชีวิตได้โทรมาหาผมประมาณ 10 โมงเช้า ก็มาฝากบอกว่าพี่ไม่มีที่พึ่ง น้องช่วยเอาพี่พล ไปดูแลหน่อยได้ไหม เรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวพี่จัดการให้ พี่รู้สึกว่าอยู่ที่นี่ น้องพล ลำบาก ไม่ค่อยปลอดภัยเพราะไม่มีใครดูแล

ผมก็บอกกลับไปว่า พี่ตึ๋ง คนในวงการเดียวกัน พี่ไม่ต้องมาจ่ายอะไรผม เพราะพี่พล ก็เป็นคนนึงในวงการบันเทิง และผมเองก็เคยดูผลงานของพี่พล ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคย หรือร่วมงานอะไรเลยกับพี่พล แต่ผมก็ยังเคยเจอ พี่ตึ๋ง อยู่บ้างและก็ถือว่าพี่เป็นนักแสดงมีคุณภาพ ผมก็บอกไปว่าเดี๋ยวผมจะดูแลให้พี่นะ แต่จะเป็นวันไหนก็บอกผมละกัน ว่าจะให้ไปรับเมื่อไหร่อย่างไร

เวลาผ่านไปประมาณ บ่ายโมงกว่า พี่ตึ๋ง เสียชีวิตในวันเดียวนั้นเลย ผมก็ตกใจมาก พึ่งคุยกันอยู่เลย ภรรยาพี่ตึ๋ง บอกว่าออกกำลังกายเสร็จมานั่งพัก แล้วก็วูบส่ง รพ. พระนั่งเกล้าจนพี่ตึ๋งเสียชีวิตไป ในวันนี้ผมเลยจะมารับตัวพี่พล พลาพร ไปตามที่เคยคุยกับพี่ตึ๋งเอาไว้ก่อนที่พี่เขาจะเสียชีวิตลง จะพาพี่พลไปอยู่ที่บ้านสุขสบาย

จากนั้น บิณฑ์ ได้ไปนั่งคุยกับพี่พล ถึงแม้จะป่วยแต่ก็ยังสามารถพูดคุยได้รู้เรื่อง ซึ่งตามตัวของพี่พลมีบาดแผลซึ่งเกิดจากการตกเตียง และเล่าถึงอดีตเมื่อครั้งยังเป็นนักแสดง ซึ่งพี่พลได้ถามถึงคุณแม่ของบิณฑ์ด้วย 

และบิณฑ์ได้บอกกับพี่พลว่าจะมารับไปอยู่ด้วย จะดูแลพี่พลเอง เพราะก่อนพี่ตึ๋งจะเสีย เขาฝากพี่พลกับผม และผมก็รับปากแล้ว พี่พลไม่ต้องกลัวนะ ไปอยู่กับผม ผมจะดูแลพี่เอง และได้อุ้มพี่พลขึ้นรถตู้เพื่อไปอยู่ที่บ้านสุขสุดท้ายด้วยกัน ไปอยู่ที่นั่นจะมีคนดูแล คอยทำกายภาพให้พี่พลด้วย อยู่ที่นั่นมีเพื่อนคุย ไม่นอนเหงาคนเดียว 

ทั้งนี้ สำหรับบ้านสุขสุดท้าย "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ก่อตั้งขึ้นจากทุนบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาและน้ำใจจากคนในสังคม บนพื้นที่ 1 ไร่ ใน ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โครงการนี้เกิดจากความปรารถนาของ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ที่จะให้เป็นพื้นที่สำหรับคนชราและผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งให้ใช้ชีวิตตามลำพัง

ภาพจาก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ , BHIN TV Thailand