หวั่นชีวิตคู่พัง!! "จ๊ะ จิตาภา ควง เอิน พบจิตแพทย์
จ๊ะ จิตตาภา ควงสามี เอิน นิธิภัทร์ เปิดใจเส้นทางความรัก พร้อมเผยว่า ชีวิตคู่เกือบพัง ตัดสินใจพากันไปพบจิตแพทย์...
นางเอกสาว จ๊ะ จิตตาภา ควงสามี เอิน นิธิภัทร์ เปิดใจเส้นทางความรักผ่านรายการคุยแซ่บโชว์ ย้อนเล่าเหตุการณ์ความรัก ที่ทำเอาชีวิตคู่เกือบพัง จึงตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ด้วยกันทั้งคู่ พร้อมเผยยังอยากแสดงละครอยู่ แต่ไม่ต่อสัญญาช่อง อยากเปลี่ยนเจออะไรใหม่ๆ บ้าง...
ภาพจาก facebook : คุยแซ่บshow
แล้วเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายมีให้ก็ได้?
จ๊ะ : ไปเยี่ยมพี่หนูเล็กเพิ่งคลอดลูกที่บ้าน วันนั้นพี่หนูเล็กยังไม่ได้กินข้าวเลย พี่หนูเล็กเลยฝากดูน้องวินแป๊บนึงขอไปตักข้าวก่อน พี่เอินเขาก็ดูจริงๆ คือเขาจ้องแบบเป็นสายตาที่จ๊ะไม่เคยเห็น เขามองน้องวินแบบละมุนละไมมาก มันก็เลยทำให้จ๊ะรู้สึกผิด ก็เลยตัดสินใจคุยกันว่าถ้าเขาอยากมีขนาดนี้คงมีแค่เราคนเดียวที่ทำหน้าที่นี้ได้ ก็เลยเจอกันตรงกลาง โอเคได้ไปหาคุณหมอเพื่อที่จะตรวจลึกๆ ว่าเรามีโรคเลือดกันไหม เรามีอะไรที่จะต้องเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีหรือเปล่า
พอตัดสินใจจะมีลูกรอบแรกน้ำยาคุณดีมากติดเป็นแฝดเลย?
จ๊ะ : คือตอนนั้นมันมีแบบการแตกตัวเองก็เลยมาเป็นคู่
เห็นว่ารอบแรกน้องอยู่ไม่ไหวน้องหลุดไป ตอนนั้นกี่เดือน?
จ๊ะ : 2 กว่าๆ
ทำให้ทั้งคู่เศร้ามากๆ จนบอกว่าไม่มีแล้วก็ได้?
จ๊ะ : จ๊ะนะคะ จ๊ะรู้สึกว่ามันไม่โอเค มันเป็นฟีลลิ่งที่รู้สึกแบบดาวน์ แล้วก็กลัวที่จะเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็เลยตัดใจไม่มีได้ไหม แต่พี่เอินก็ยังยืนยันว่าจะมี
เอิน : ตอนนั้นเป็นช่วงที่เราพยายามเชียร์เขา บิวต์เขา แต่ก็ยอมรับว่าบางปัญหาเราสองคนไม่สามารถเคลียร์กันได้ทุกอย่าง ถ้าเราเคลียร์กันไม่ได้ เราไปคุยกับจิตแพทย์ไหม เพราะว่าเราเห็นเขาดาวน์ เราเห็นเขาเสียใจ แต่เราไม่สามารถทำอะไรได้ไม่ว่าจะเป็นการเชียร์อัป พูดให้เขามีกำลังใจ ให้เขาตั้งสติขึ้นมาได้ เราทำไม่ได้ เราก็เลยตัดสินใจไปคุยกับจิตแพทย์ไหม เผื่อมันจะช่วยได้
เห็นบอกว่าไปคุยสักระยะนึงเลย คุยคู่ก็มี คุยแยกเดี่ยวก็มี ตอนนั้นน้องจ๊ะดาวน์ลงไปขนาดไหน?
เอิน : มันเป็นเรื่องของความเครียดด้วย พอท้องความเครียดมีผล พอไม่ประสบความสำเร็จบางอย่าง มันก็จะต้องมีความคาดหวังว่าครั้งต่อไปมันจะประสบความสำเร็จไหม เราเลยรู้สึกว่าทำยังไงก็ได้ให้เราสละความเครียดนี้ได้ก่อน ก็เลยลองออกไปปรึกษาคนอื่นดู
ปรึกษาคุณหมอ คุณหมอว่ายังไงบ้าง?
เอิน : คุณหมอขุดอดีตเลยครับ ทำไมถึงอยากมี ทำไมถึงไม่อยากมี คุณหมอก็เข้าใจในมุมมองของเรา ในมุมมองของเขา แล้วมานั่งคุยกันว่าเรามีโอกาสที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ ใช้เวลาปรึกษาประมาณ 3 เดือน มีการทำคอร์สเกือบทุกอาทิตย์
ภาพจาก ig : ja_jittapa
ภาพจาก ig : ja_jittapa
สิ่งที่ได้กลับมาคืออะไรบ้าง?
เอิน : คือเรื่องของสภาพจิตใจเลยครับ จากตอนแรกที่เราดิ่งไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะพูดยังไงให้จ๊ะดีขึ้นพอเราไป เรารู้สึกว่าเราคุยกันมากขึ้น เราเห็นทางที่เราจะเดินไปต่อ มันเห็นภาพข้างหน้าชัดเจนขึ้น
แล้วจุดไหนที่เรามาจับมือกันแล้วมีลูกอีกครั้ง?
เอิน : มันมาเอง เรารู้สึกว่าเราพร้อม แล้วรับกับผลลัพธ์กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ว่าเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ต่อมาเราใช้วิธีธรรมชาติเหมือนเดิม หรือไปปรึกษาแพทย์?
จ๊ะ : ไม่ค่ะ เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หมดเลย
ตอนแรกตั้งใจจะมีคนเดียวเหรอ แต่ดันติดแฝด?
เอิน : เอาคนเดียวให้ได้ก่อนก็แฮปปี้แล้วครับ
จ๊ะ : คุณหมอตัดสินใจใส่คู่ค่ะ เพราะว่าจ๊ะมีแผลที่มดลูกแล้วก็อาจจะยากหน่อย ก็เป็นการเผื่อไว้ คาดการว่าน่าจะติด 1 แต่พอติดคู่ก็หลอนๆ นิดนึง แต่ก็ดูแลให้ดีที่สุด จ๊ะแพ้ท้อง 4 เดือน ถามว่ามีเหวี่ยงเขาไหม คือมีเรื่องเดียว จ๊ะเหม็นเขา พอเขาเข้ามาใกล้ๆ จ๊ะจะรู้สึกหงุดหงิด เราเหนื่อยเราไม่อยากอาเจียนแล้ว ก็จะแบบว่าไม่ต้องมาได้ไหม
เอิน : เราทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่อยู่ห่างๆ แล้วต้องระมัดระวังเรื่องการกินมากขึ้น บางทีเรากินอะไรที่เหม็นมันก็จะทวีคูณมากขึ้น
ทำไมตั้งชื่อลูกว่า โอบ-อารี?
จ๊ะ : ตั้งจากความหมายที่เราอยากให้เขาเป็น โอบก็มาจากโอบอ้อมนี่แหละ แต่เราตัดอ้อมออก
หลงลูกเลเวลไหน?
เอิน : ตอนนี้ก็ไม่ได้ไปไหนเลย
ภาพจาก ig : ja_jittapa
ภาพจาก ig : ja_jittapa
ภาพจาก ig : ja_jittapa
ภาพจาก ig : ja_jittapa
ข้อมูล / ภาพจาก facebook : คุยแซ่บShow