รู้จักตัวตน! “ชัยวัฒน์”บอกผมไม่ได้ฆ่า”บิลลี่”ลั่นตลอดชีวิตทำเพื่อแผ่นดิน
“ผมไม่หนีและพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากมีหมายจับออกมาจริง เพราะคดีนี้ ไม่ได้กระทำความผิด ผมไม่ได้ฆ่าเขา และตลอดชีวิต ผมทำงานเพื่อแผ่นดิน”
“ผมไม่หนีและพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
หากมีหมายจับออกมาจริง เพราะคดีนี้ ไม่ได้กระทำความผิด ผมไม่ได้ฆ่าเขา
และตลอดชีวิต ผมทำงานเพื่อแผ่นดิน”
นั่นคือประโยชน์สั้นๆแต่ได้ใจความ เมื่อทีมข่าวได้ยกหูโทรศัพย์
เพื่อสอบถามความรู้สึกของ”ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร”ภายหลังมีข่าวพนักงานสอบสวนดีเอสไอ
เสนอศาลอาญา เพื่อออกหมายจับเขาและลูกน้องรวม 4 คน ในคดีฆาตกรรม นายพอละจี
รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน
จ.เพชรบุรี
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาถึงวันนี้
ถือว่าเขาพร้อมที่จะไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม หลังจากในห้วงการหายตัวของ”บิลลี่”ในตลอด
5 ปีที่ผ่านมา เขาเป็นบุคคลหมายเลข 1 ที่ถูกโยงว่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวของกะเหรี่ยงนักสู้ผู้นี้
ส่วน”ชัยวัฒน์”หากย้อนดูประวัติ ถือว่าไม่ธรรมดา!
เคยทำงานรับผิดชอบโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพพื้นที่เขานางพันธุรัตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เคยเป็นหัวหน้าวนอุทยานชะอำ
ก่อนจะมารับตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
เดือน ก.ค.2554 ปรากฏชื่อเป็นข่าวครั้งแรก
หลังนำกำลังเข้ารื้อทำลาย เผาบ้านเรือน
และทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยกว่า 20 ครอบครัว
โดยให้เหตุผลว่าผลักดันออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
เพื่อป้องกันการทำลายป่า
ถัดมาสร้างวีรกรรมโด่งดังไปทั่วประเทศ เมื่อบุกป่าฝ่าดงเข้าไปช่วยกู้เฮลิคอปเตอร์และผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
จนถูกขนานนามว่า "วีรบุรุษแก่งกระจาน" พร้อมเข้ารับมอบประกาศนียบัตรแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น
ประจำปี 2554
จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ด้านคดีความก่อนหน้านี้เขา เคยตกเป็นจำเลยร่วมในคดีจ้างวานฆ่านายทัศน์กมล
โอบอ้อม หรือ อาจารย์ป๊อด อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย จ.เพชรบุรี
แกนนำในการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับกลุ่มกะเหรี่ยงบางกลอย
พร้อมกันนั้นยังถูกเปิดเผยข้อมูลของ ไร่ราชพฤกษ์
บ้านพักส่วนตัวของเขา บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่
ม.5
บ้านห้วยปลาดุก ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน
จ.เพชรบุรี ท่ามกลางข้อหาครหามากมาย แต่ทั้งหมดเขาต่อสู้จนพ้นผิด
ชัยวัฒน์ ตลอดการทำงาน ถือว่าเขามักจะเป็นไม้เบื่อยไม้เมา
กับกลุ่มนักสิทธิมนุษยชน จากด้วยเหตุที่เขา ต่อสู้เพื่อปกป้องผืนป่า โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม
2555
นายชัยวัฒน์ นำทีมพนักงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 100 คน
บุกโรงพัก สภ.แก่งกระจาน เพื่อยื่นหนังสือจี้ตำรวจดำเนินคดีนายนิรันดร์
พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายสุรพงษ์ กองจันทึก
คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ
แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ฐานหมิ่นเบื้องสูง
หลังจากสำนักคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีหนังสือถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานว่าให้ยกเลิกโครงการปลูกพืชอาหารช้าง
สร้างอาหารสัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน พ.ย.2555 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรวบแก็งค์ลักลอบล่าสัตว์ได้ที่ป่าห้วยแม่ประโดน
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ได้ตัวผู้กระทำผิด 9 คนพร้อมอาวุธครบมือ
หนึ่งในนั้นเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. ต่อมาภายหลังกลับถูกไม่ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี
วีรกรรมครั้งนั้น ส่งผลให้มีประชาชนให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
แต่เมื่อการหายตัวไปของ "บิลลี่" และแม้
ชัยวัฒน์ จะออกมายอมรับว่าได้ควบคุมตัว”บิลลี่”ไว้
โทษฐานมีน้ำผึ้งป่าอันไว้ในครอบครองซึ่งขัดต่อกฎระเบียบของอุทยาน แต่ทว่าได้ตักเตือนและปล่อยตัวไปแล้ว
แต่เขาคือเป้าที่สังคมจับจ้องพร้อมตั้งคำถามว่า เขาฆ่าหรือไม่?
ส่วนท้ายสุด...การต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม
แน่นอน เขาอาจจะพ่ายแพ้ หรือ อาจจะเป็น ผู้ชนะ โดยศาลสถิตยุติธรรม จะเป็นผู้ตัดสิน
ว่าหลักฐานของฝ่ายไหนน่าเชื่อถือ และมีน้ำหนักมากพอ ที่จะนำไปสู่การพิพากษาโทษหรือยกฟ้อง
....ถือเป็นคดีดังที่ต้องติดตาม!!!
