ดีเอสไอจ่อเช็กมาเซราติ "หนิง ปณิตา" พัวพันคดีรถหรูหรือไม่?

วันนี้ (24 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเข้าตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อมาเซราติ ของ "หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ" ดารานักแสดงหญิง หลังตำรวจพบว่ามีการสวมทะเบียนรถยนต์ BMW ทะเบียน กท 191 กทม.  โดยเบื้องต้น ดีเอสไอ ได้ตรวจสอบในทะเบียนประวัติการสอบสวนการนำเข้ารถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษี แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากยังไม่ทราบหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์ของรถคันนี้  แต่เมื่อตรวจสอบจากฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ไม่พบว่าดาราสาวและสามีมีประวัติครอบครองรถยนต์มาเซราติ

ส่วนผลการตรวจสอบรถยนต์ BMW ทะเบียน กท 191 กรุงเทพมหานคร พบว่าจดทะเบียนครอบครองในชื่อบริษัทที่ประกอบธุรกิจขายปลีกเหล็กรูปพรรณ ตั้งอยู่ย่านบางนา นอกจากนี้ยังพบประเด็นเป็นพิรุธต้องสงสัยว่ารถยนต์คันนี้เพิ่งจดทะเบียนครอบครองรถกับกรมการขนส่งทางบกเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา  ซึ่งรถยนต์จะสิ้นอายุภาษีในวันที่ 17 ตุลาคมปีหน้า แต่ป้ายวงกลมในรถมาเซราติ ที่มาสวมทับเป็น BMW ทะเบียน กท 191 กทม. กลับขาดต่อภาษี 

หลังจากนี้ตำรวจเจ้าของสำนวน อาจออกหมายเรียกให้ดาราสาวส่งมอบรถยนต์ เพื่อให้มาตรวจสอบและสำแดงเอกสารการนำเข้า หากพบว่าเป็นรถที่อยู่ในการตรวจสอบของดีเอสไอจึงจะประสานส่งต่อสำนวนมาให้ดีเอสไอดำเนินการ 

ส่วนความคืบหน้าทางคดีล่าสุด พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า  ในวันนี้ (24 ต.ค.) เวลา 09.00 น. หนิง ปณิตา ได้นัดนำเอกสารและรถคันนี้มาให้ตรวจสอบอีกครั้งที่ สน.วิภาวดี โดยดาราสาวสามารถมอบหมายให้ทนายความมาดำเนินการแทนได้ ส่วนจะมีการตรวจสอบรถหรูที่หนิงครอบครองอเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานถึงรถคันอื่นๆ แต่หากดีเอสไอมีข้อมูลก็สามารถมาแลกเปลี่ยนกับ บช.น. ได้

ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ ได้เข้าไปดำเนินคดีกับขบวนการนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษีกับบริษัทเอกชนรายใหญ่หลายแห่ง จนเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการไม่สามารถนำรถยนต์ที่สำแดง รายการภาษีอันเป็นเท็จไปยื่นจดทะเบียน รวมถึงรัฐบาลไม่อนุญาตจดทะเบียนให้กับรถยนต์มือสองที่นำเข้าในลักษณะจดประกอบ เป็นรถใช้เชื้อเพลิงประเภทแก๊สแอลพีจี เป็นเหตุให้ผู้นำเข้าหลายรายนำรถยนต์หรูไปสวมทะเบียนให้ลูกค้าสามารถนำรถยนต์ไปขับขี่ได้

หลายปีก่อนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ เริ่มทำการกวาดล้างขบวนการรถหรูเลี่ยงภาษี นำไปสู่การตรวจสอบรถหรูทั่วประเทศ ก็พบว่าบริษัทที่นำเข้าพยายามใช้กลโกงต่างๆนำรถหรูเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเสียภาษีในอัตราต่ำกว่าภาษีการนำเข้ารถทั้งคัน ทำให้รัฐต้องเสียหายเกือบหมื่นล้านบาท 

วิธีการที่ถูกนำมาใช้เพื่อเลี่ยงภาษีที่ดีเอสไอตรวจพบมากที่สุด คือการสำแดงเท็จหรือปลอมใบอินวอยด์ แสดงราคาซื้อขายต่ำกว่าความเป็นจริงหรือแสดงราคารุ่นที่ถูกกว่า ทำให้เสียภาษีน้อยลงแล้วนำมาขายต่อในราคาปกติ

นอกจากนั้นคือรูปแบบการหลีกเลี่ยงข้อจำกัด แยกชิ้นส่วนรถยนต์มือสองจากต่างประเทศ นำเข้ามาประกอบในโรงงานที่ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกไม่รับจดทะเบียน ขบวนการนี้จึงใช้การสวมทะเบียนรถยนต์ที่ถูกต้องเข้าไปแทน  ลักษณะเดียวกับการสวมทะเบียนรถยนต์หรู ที่ลักลอบนำเข้ามาทางตู้คอนเทนเนอร์หรือตามชายแดน

นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของการใช้สิทธินักเรียนไทยในต่างประเทศ นำรถหรูซึ่งอ้างว่าใช้งานอยู่ ส่งกลับเข้ามาใช้งานต่อในประเทศไทยในลักษณะรถที่มีอายุใช้งานมากกว่า 2 ปี เพื่อจะได้จ่ายภาษีน้อยลงก่อนจะขายต่อ ซึ่งกรณีนี้จะมีการยกเลิกสิทธิในวันที่ 10 ธันวาคม 2562 นี้

ส่วนสาเหตุที่ต้องหลีกเลี่ยงการนำเข้ารถหรู หรือซุปเปอร์คาร์ทั้งคันตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เนื่องจากจะต้องเสียภาษีสูงถึงร้อยละ 328 ทำให้ต้นทุนของผู้ขายหรือนำเข้ารถสูง จึงพยายามหาวิธีการหลีกเลี่ยงต่างๆ หรือลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย   ซึ่งสุดท้ายส่งผลเสียต่อรัฐในแต่ละปีมูลค่ามหาศาล

นับตั้งแต่มีการกวาดล้าง คุมเข้มการนำเข้ารถหรู และตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่อเค้าทุจริตรู้เห็นกับการนำเข้า ทำให้ปัญหาการนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษีลดน้อยลงไปมาก  แต่ขณะเดียวกันกลับพบว่ามีรถหรูเลี่ยงภาษีที่ถูกตำรวจยึดได้อีกจำนวนหนึ่ง เป็นประเภทรถหรูที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รถที่มาจากการโจรกรรม เข้ามาในลักษณะนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร  ก่อนนำมาสวมทะเบียน ปลอมเอกสาร หลอกขายตามท้องตลาด หรือส่งให้กับผู้ซื้อที่ต้องการรถลักษณะนี้โดยตรง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขนส่งฯ แจงปมรถหรู "หนิง ปณิตา" จดทะเบียนถูกต้อง

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand