TNN online จับแล้ว! หัวหน้า 'แก๊งควาย' ตุ๋นเหยื่อเล่น 'กำถั่ว' กว่า20ปี

TNN ONLINE

อาชญากรรม

จับแล้ว! หัวหน้า 'แก๊งควาย' ตุ๋นเหยื่อเล่น 'กำถั่ว' กว่า20ปี

จับแล้ว! หัวหน้า 'แก๊งควาย' ตุ๋นเหยื่อเล่น 'กำถั่ว' กว่า20ปี

กองปราบปราม รวบตัวนายพังพะกาญจน์ กาญจนศักดินากุล หัวหน้าแก๊งควาย หลอกตุ๋นเหยื่อเล่น "กำถั่ว" มากกว่า 20 ปี หมายจับเพียบ

วันนี้ (2 ต.ค. 62) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล ,พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง ,พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน ,พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ สว.กก. 2 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัว

นายพังพะกาญจน์ กาญจนศักดินากุล อายุ 74 ปี ชาวต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 268/2558ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”

พฤติการณ์ของแก๊งนี้ ถ้าพูดถึง “แก๊งควาย” แล้วคงไม่มีใครไม่รู้จัก กลุ่มคนร้ายเกินกว่า 100 คน ที่อาศัยการเล่นพนันกำถั่วในการหลอกลวงผู้เสียหาย โดย นายพังพะกาญจน์ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสมาชิกระดับต้นๆ และเป็นหัวหน้าของแก๊ง ให้การว่า การหลอกลวงเหยื่อ 1 ครั้ง จะมีตัวละคร ทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ 1.คนชักชวนผู้เสียหาย (คนจีบ) 2.เจ้ามือ (คนสอนเล่นกำถั่ว) 3.เสี่ย เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ จากต่างประเทศ คือ ผู้ต้องหา 4. เหยื่อ

จับแล้ว! หัวหน้า 'แก๊งควาย' ตุ๋นเหยื่อเล่น 'กำถั่ว' กว่า20ปี

ขั้นตอนในการหลอกลวง เริ่มจาก "คนจีบ" จะเป็นคนหาเหยื่อมาให้ โดยแกล้งทำเป็นสนใจเกี่ยวกับธุรกิจหรืองานที่เหยื่อทำอยู่ จากนั้น ก็จะชักชวนเหงื่อให้มาหาที่โรงแรมภายในพื้นที่ เพื่อมาคุยเรื่องธุรกิจกันต่อ เมื่อเหยื่อมาถึงที่โรงแรม จะพบ "เจ้ามือ" นั่งรออยู่ในห้องของโรงแรม โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนกับคนจีบ จากนั้นคนจีบจะชวนคุยเรื่องธุรกิจก่อน เมื่อเหยื่อเริ่มตายใจ เจ้ามือจะเริ่มพูดถึงเสี่ยคนหนึ่งที่ได้เล่นการพนันกำถั่วกับพวกเขาไปเมื่อวานและเสียเงินไปหลายล้าน และกำลังนำเงินจำนวนมากมาแก้มือคืน

ผ่านไปสักพักหนึ่ง ตัวละคร "เสี่ย" ก็จะเดินเข้ามาในห้องและเปิดเงินภายในกระเป๋าให้เหยื่อดูว่า ตนนั้นมีเงินจำนวนมากและจะมาเล่นกำถั่วเพื่อแก้มือ ซึ่งความจริงแล้ว เงินในกระเป๋านั้นมีเพียงธนบัตรวางไว้ด้านบนเพียงไม่กี่ใบ เมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ ทางเจ้ามือก็จะชักชวนให้เหยื่อร่วมเล่นด้วยและสอนวิธีการเล่นกำถั่วให้

จับแล้ว! หัวหน้า 'แก๊งควาย' ตุ๋นเหยื่อเล่น 'กำถั่ว' กว่า20ปี

โดยการเล่นกำถั่วจะใช้อุปกรณ์เพียงแค่ 2 อย่าง คือ 1.ถั่ว (จะเป็นวัตถุอะไรก็ได้ที่มีลักษณะเป็นเม็ด) 2.ฝาครอบลักษณะทึบ เมื่อเริ่มเล่น ทางเจ้ามือจะนำฝาครอบไปครอบถั่วไว้ โดยไม่ต้องนับจำนวน จากนั้น จะนำถั่วออกมาจัดเป็นกลุ่มเรื่อยๆ กลุ่มละ 6 เม็ด และให้ทางเหยื่อเป็นคนทายว่า เศษที่เหลือนั้นจะเป็นจำนวนคู่ หรือจำนวนคี่ ถ้าหากเหยื่อไม่สนใจทางกลุ่มแก๊งควายก็จะไม่บังคับให้เล่น แต่ถ้าหากเหยื่อเกิดความโลภอยากได้เงิน ทางเจ้ามือก็จะนำ “ชิป” ให้กับเหงื่อเพื่อใช้แทนเงินสด เพื่อแก้ปัญหาหากเหยื่อไม่ได้นำเงินมาและทำให้แก๊งควายไม่ต้องใช้เงินจริงด้วย

เมื่อเริ่มเล่นไปประมาณ 5-6 เกมส์ แก๊งควายจะให้เหยื่อเป็นคนชนะเกมส์ก่อน เพื่อให้เหยื่อตายใจและอยากเล่นต่อ หลังจากเกมส์ที่ 6 เป็นต้นไป เจ้ามือจะเริ่มโกง โดยให้เสี่ย ชวนคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นเจ้ามือจะแอบหยิบถั่วขึ้นมาหนึ่งเม็ดซ่อนไว้ ในจังหวะทำการเปิดฝาครอบเกมส์ต่อไป เจ้ามือจะแอบใส่ถั่วเม็ดดังกล่าวเข้าไปเพิ่ม ทำให้จำนวนถั่วที่เหลือจากคู่กลายเป็นคี่ หรือจากคี่กลายเป็นคู่ เมื่อเหยื่อเริ่มแพ้เกมส์ ก็จะยิ่งอยากได้เงินคืน จนทำให้สุดท้ายกลายเป็นติดหนี้แก๊งควาย ต้องเสียเงินทองเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหยื่อบางคน ถึงขนาดนำโฉนดที่ดินของตนไปจำนองเพื่อนำเงินมาให้กับแก๊งควาย

จับแล้ว! หัวหน้า 'แก๊งควาย' ตุ๋นเหยื่อเล่น 'กำถั่ว' กว่า20ปี

เมื่อได้เงินมาแล้วกลุ่มแก๊งควายจะนำมาแบ่งกันตามสัดส่วนหน้าที่ของแต่ละคน ซึ่งคนที่ทำหน้าที่เป็น คนจีบ นั้นจะเป็นคนที่ได้ส่วนแบ่งเยอะที่สุด

โดย นายพังพะกาญจน์ รับสารภาพว่า หลังจากหลอกลวงเหยื่อมามากว่า 20 ปี ตั้งแต่อายุประมาณ 40 ปี มีผู้เสียหายเกินกว่า 10 คน เงินที่ได้จากการกระทำความผิดหลายล้านบาท หมายจับกว่า 12 หมาย ก็ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ประมาณ 2 เดือน เนื่องจากสุขภาพร่างกายอ่อนแอลง ทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือเหมือนแต่ก่อน

จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด ปิดฉากการหลบหนีอย่างยาวนาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้ต้องหามาที่ กก.2 บก.ป. เพื่อทำบันทึก และส่งตัวให้ พงส.ฯ สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยนายพังพะกาญจน์ ผู้ต้องหา อยากฝากถึงประชาชนและเจ้าของกิจการ ว่าอย่าให้ความโลภครอบงำ หากเกิดความโลภแล้ว จะทำให้ขาดสติและตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพอย่างที่ตนกระทำได้ง่าย ซึ่งเท่าที่ทราบยัง มีคนร้ายอีกมากมายที่อาศัยความโลภของมนุษย์ในการหลอกลวง ทั้งนี้เท่าที่ตนเองทราบ ในจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงยังมีอีกหลายรายที่ใช้วิธีการเช่นเดียวกับตน