สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไฟเขียวร่างกฎหมายคริปโต 3 ฉบับ เตรียมส่งลงนามโดยทรัมป์

3 ร่างกฎหมายที่ผ่านมีอะไรบ้าง?

• Digital Asset Market Clarity Act (CLARITY) วางโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล (294 ต่อ 134 เสียง)

• GENIUS Act วางกรอบกฎหมายสำหรับสเตเบิลคอยน์ หรือ เงินดิจิทัลที่อ้างอิงมูลค่าจากเงินดอลลาร์สหรัฐ (308 ต่อ 122 เสียง)

• Anti-CBDC Surveillance State Act คัดค้านการใช้สกุลเงินดิจิทัลจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (CBDC) (219 ต่อ 210 เสียง)

ฝ่ายรีพับลิกันเดินเกมเต็มสูบตามนโยบายทรัมป์

พรรครีพับลิกัน ผลักดันให้เรียกร่างกฎหมายชุดนี้ว่า “สัปดาห์คริปโต” ซึ่งสะท้อนท่าทีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการเร่งผลักดันนโยบายคริปโตในสหรัฐฯ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการต่อต้าน CBDC ที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อเสรีภาพทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม ในวันพุธก่อนหน้านั้น การพิจารณาร่างกฎหมายเกือบต้องล่ม เนื่องจาก ส.ส. รีพับลิกันบางคนยืนยันให้เพิ่มบทบัญญัติห้ามพัฒนา CBDC ในประเทศอย่างชัดเจน

CBDC คืออะไร

Central Bank Digital Currency หรือ CBDC คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศ ซึ่งมีสถานะเป็น “เงินที่ถูกกฎหมาย” เช่นเดียวกับเงินสดที่เราใช้กันในปัจจุบัน แต่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ไม่ใช่เหรียญหรือธนบัตร 

CBDC ได้รับประกันโดยรัฐและมีธนาคารกลางเป็นผู้ออกและรับรองมูลค่า ปลอดภัยและตรวจสอบได้โดยใช้เทคโนโลยีที่ป้องกันการปลอมแปลง และสามารถติดตามเส้นทางการเงินได้ อาจใช้แทนเงินสดในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจไร้เงินสดขยายตัว

เสียงสนับสนุนและคัดค้านจากทั้งสองฝ่าย

แม้พรรคเดโมแครตจะมีท่าทีระวัง แต่ ส.ส. จากเดโมแครตกว่า 100 คน ยังโหวตเห็นด้วยกับร่าง GENIUS Act และเกือบ 80 คนสนับสนุน CLARITY อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายต่อต้าน CBDC ได้รับเสียงสนับสนุนจากเดโมแครตน้อยที่สุด และยังคงเป็นประเด็นขัดแย้งทางการเมือง

กลุ่มคริปโตยกเป็น "ชัยชนะของอุตสาหกรรม"

ตัวแทนจากอุตสาหกรรมคริปโต เช่น Summer Mersinger อดีตกรรมการ CFTC และปัจจุบันเป็น CEO ของ Blockchain Association กล่าวชื่นชมร่างกฎหมาย โดยชี้ว่า “การผ่านกฎหมายต่อต้าน CBDC คือชัยชนะด้านความเป็นส่วนตัว เสรีภาพ และการแข่งขันในตลาด”

อันตรายต่อระบบการเงินโลก

ด้าน ส.ส. แม็กซีน วอเทอร์ส จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายคัดค้าน กล่าวโจมตีว่า ร่างกฎหมายเหล่านี้เปิดช่องให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้บริโภคและระบบการเงิน ไม่ต่างจากวิกฤตการณ์ปี 2008 โดยเธอได้จัดแถลงข่าวภายใต้ชื่อ “สัปดาห์ต่อต้านคอร์รัปชันคริปโต” เพื่อเตือนถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

เดินหน้าสู่การลงนามของประธานาธิบดี

ทรัมป์เตรียมลงนามในร่าง GENIUS Act ภายในวันศุกร์ หากไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ส่วน CLARITY และร่างต่อต้าน CBDC จะเข้าสู่วุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อ ก่อนส่งกลับสภาหรือเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายที่โต๊ะทำงานของประธานาธิบดี

การผ่านร่างกฎหมายทั้งสามฉบับครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติในการจัดระเบียบโลกคริปโต แต่ยังเป็นสัญญาณว่าอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ท่ามกลางกระแสความเห็นที่หลากหลาย หนึ่งสิ่งที่ชัดเจนคือ โลกการเงินกำลังเปลี่ยนแปลง