แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย ล่าสุดเสียชีวิตทะลุ 3,400 บาดเจ็บกว่าหมื่นราย!

คืบหน้า "แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย"  ล่าสุดเสียชีวิตทะลุ 3,400 ราย บาดเจ็บ 15,762 ราย รุนแรงที่สุดในภูมิภาครอบกว่า 100 ปี 

ความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหว 2 ครั้งใหญ่เขย่าภาคกลางของตุรกีและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยครั้งแรก ระดับความแรง 7.8 ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ และครั้งที่ 2 วัดได้ 7.7 ในช่วงบ่าย ทำให้อาคารบ้านเรือนจำนวนมากพังถล่ม ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,452 คนแล้ว แบ่งเป็นมากกว่า 2,316 คนในตุรกี และมากกว่า 1,136 คนในซีเรีย และบาดเจ็บรวมกัน 15,762 คน ในตุรกีอย่างน้อย 13,293 คน และในซีเรียมากกว่า 2,469 คน  

สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ หรือยูเอสจีเอส ระบุว่า แผ่นดินไหว ซึ่งเป็นหนึ่งในครั้งที่รุนแรงที่สุดในภูมิภาคนี้ในรอบมากกว่า 100 ปี เกิดขึ้นห่าง 23 กิโลเมตรจากทางตะวันออกของเมืองนูร์ดากี ในจังหวัดกาซีอันเตป ที่ความลึก 24.1 กิโลเมตร 

จากนั้นอีกหลายชั่วโมง หลังแผ่นดินไหวครั้งแรก ก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงตามมาอีกหลายครั้ง รับรู้แรงสั่นสะเทือนไปทั่วภูมิภาค ซึ่งรวมทั้งครั้งที่รุนแรงที่สุดวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.5 สำนักงานป้องกันภัยพิบัติของตุรกีเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ ขณะปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยยังดำเนินไปต่อเนื่อง  

เจ้าหน้าที่กู้ภ้ยกำลังเร่งช่วยชีวิตผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารบ้านเรือน หลังอาคารหลายร้อยหลังพังถล่มในทั้งสองประเทศ โดยประชาชนหลายล้านคนทั่วตุรกี, ซีเรีย, เลบานอน, ไซปรัสและอิสราเอล ต่างรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้

ประธานาธิบดีเทย์ยิป เออร์โดวาน ของตุรกี กล่าวว่า ขณะนี้ มี 45 ประเทศได้เสนอความช่วยเหลือในการค้นหาและกู้ภัย แต่เขาไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ ยังไม่มีความชัดเจนว่า เกิดความเสียหายขนาดไหนจากแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพยายามดึงร่างผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากซากปรักหักพังในสภาพอากาศเลวร้าย โดยบรรดาผู้นำโลกต่างให้คำมั่นว่าจะส่งความช่วยเหลือ หลังตุรกีร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ 

ขณะเดียวกัน ปราสาทกาซีอันเตป (Gaziantep Castle) ปราสาทเก่าแก่พังเสียหาย โดยในวิดีโอที่ถ่ายจากรถยนต์ที่กำลังเคลื่อนที่แสดงให้เห็น ภายนอกของปราสาทโบราณมีหินร่วงลงมาจากผนังกำแพง 

ปราสาทเก่าแก่แห่งนี้ สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณช่วงศตวรรษที่ 2 และ 3 ในยุคโรมัน เพื่อใช้เป็นสถานีตำรวจ ต่อมาในยุคจักรพรรดิไบแซนไทน์ จัสติเนียน ปี ค.ศ.527-565 ได้บูรณะเพิ่มเติมด้วยการเพิ่มคูเมือง และขยายตัวอาคาร ปราสาทแห่งนี้ถูกเลิกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการป้องกันหลังศตวรรษที่ 18 เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องที่ยวยอดนิยมของตุรกี

ด้านริค เบรนแนน ผู้อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินประจำภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO คาดการณ์ว่า ผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก หลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตุรกีและซีเรีย ซึ่งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในตุรกีในศตวรรษนี้ มีอาคารจำนวนมากพังถล่ม และจะเพิ่มขึ้นอีกในบริเวณรอบศูนย์กลางของแผ่นดินไหว  

เบรนแนน กล่าวว่า WHO กำลังจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปยังเมืองกาซีอันเตป ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว และสำรวจทางเลือกในการส่งทีมแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ความพยายามกู้ภัยยังคงมีความยากลำบาก เนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อก โดยกล่าวว่า เรากังวลเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของโครงสร้าง เมื่อมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอีก และนั่นจะจำกัดความสามารถในการตอบสนองของเรา

เบรนแนน กล่าวอีกว่า ซีเรีย ซึ่งผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมมานานหลายปี, ปัญหาเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และการระบาดของอหิวาตกโรค พบว่าตัวเองตกอยู่ใน “พายุที่สมบูรณ์แบบ” หรือสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นพร้อมกัน หลังแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้ ซึ่งการมาบรรจบกันของวิกฤตเหล่านี้ นำไปสู่ความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง

ภาพจาก AFP