TNN online WHO ประชุมฉุกเฉินรับมือโรคฝีดาษลิง คาดฉีดวัคซีนไข้ทรพิษป้องกันได้ 80%

TNN ONLINE

World

WHO ประชุมฉุกเฉินรับมือโรคฝีดาษลิง คาดฉีดวัคซีนไข้ทรพิษป้องกันได้ 80%

WHO ประชุมฉุกเฉินรับมือโรคฝีดาษลิง คาดฉีดวัคซีนไข้ทรพิษป้องกันได้ 80%

องค์การอนามัยโลก ประชุมฉุกเฉินรับมือโรคฝีดาษลิงระบาดรุนแรงติดเชื้อพุ่งกว่าร้อยในหลายประเทศในยุโรป คาดไม่น่าจะระบาดรุนแรงเหมือนโควิด-19 อ้างสามารถฉีดวัคซีนไข้ทรพิษป้องกันฝีดาษลิงได้ผลกว่าร้อยละ 80 โดยในอังกฤษแนะนำฉีดวัคซีนตัวนี้ให้บุคลากรทางการแพทย์แล้ว

วันนี้ (21 พ.ค.65) องค์การอนามัยโลก หรือ WHO มีกำหนดจัดการประชุมฉุกเฉินในวันศุกร์ตามเวลาในยุโรป เพื่อหารือเกี่ยวกับการระบาดของโรคฝีดาษลิง ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยครั้งในแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง หลังจากมีการยืนยันว่าพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้มากกว่า 100 คนแล้วในยุโรปขณะนี้ 

โดยเยอรมนีระบุว่า เป็นการระบาดรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในยุโรป ซึ่งมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อยใน 5 ประเทศ คือสหราชอาณาจักร สเปน โปรตุเกส เยอรมนี และอิตาลี รวมทั้งสหรัฐฯ แคนาดา และออสเตรเลียด้วย

การติดเชื้อ "โรคฝีดาษลิง" ซึ่งเป็นโรคที่ระบาดผ่านการสัมผัสใกล้ชิดและแทบจะไม่เคยระบาดออกนอกแอฟริกา จึงสร้างความวิตกกังวลอย่างมาก อย่างไรก็ตาม 

บรรดานักวิทยาศาสตร์ ไม่คาดว่า การระบาดของฝีดาษลิงจะพัฒนาไปสู่การระบาดใหญ่เหมือนกับไวรัสโควิด-19 เนื่องจากไวรัสฝีดาษลิง ไม่ได้ระบาดง่ายเหมือนไวรัสโควิด SARS-COV-2

ทั้งนี้ โรคฝีดาษลิง มักเป็นอาการป่วยจากเชื้อไวรัสที่ไม่รุนแรง โดยมีอาการไข้และผื่นขึ้นเป็นหลุมเป็นบ่อ 

สำนักงานการแพทย์ของกองทัพเยอรมนี ซึ่งตรวจพบผู้ติดเชื้อคนแรกในประเทศเมื่อวันศุกร์ แถลงว่า จนถึงขณะนี้ มีการยืนยันผู้ติดเชื้อหลายคนในสหราชอาณาจักร สเปน และโปรตุเกส ซึ่งถือเป็นการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของโรคฝีดาษลิงที่เคยพบในยุโรป แต่ก็ระบุด้วยว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่โรคนี้จะระบาดนาน ผู้ป่วยสามารถแยกกักตัว ลดการสัมผัส และรับประทานยาและฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถใช้ได้หากจำเป็น

ตามข้อมูลของ WHO ระบุว่า ยังไม่มีวัคซีนเฉพาะสำหรับโรคฝีดาษลิง แต่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า วัคซีนที่ใช้กับไข้ทรพิษ ได้ผลในการป้องกันโรคฝีดาษลิงอย่างมีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 85 ซึ่งเจ้าหน้าที่อังกฤษ แถลงในวันพฤหัสบดีว่า พวกเขาได้เสนอฉีดวัคซีนไข้ทรพิษสำหรับบุคลากรทางการแพทย์บางคน และคนอื่น ๆ ที่อาจสัมผัสเชื้อโรคฝีดาษลิงแล้ว  


ภาพจาก Reuters

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง