TNN online รัสเซียโจมตียูเครนอย่างหนัก! ยิงจรวดในเขตชุมชนอย่างต่อเนื่องหลายเมือง

TNN ONLINE

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

รัสเซียโจมตียูเครนอย่างหนัก! ยิงจรวดในเขตชุมชนอย่างต่อเนื่องหลายเมือง

รัสเซียโจมตียูเครนอย่างหนัก! ยิงจรวดในเขตชุมชนอย่างต่อเนื่องหลายเมือง

รัสเซียยิงจรวดโจมตีเขตชุมชนอย่างต่อเนื่องในหลายเมืองของยูเครนทั้งทางอากาศ ทางบกและทะเล ขัดขวางการอพยพของพลเรือนอีกครั้ง

วันนี้ (8 มี.ค.65) รัสเซียยังคงยิงจรวดโจมตีเขตชุมชนอย่างต่อเนื่องในหลายเมืองของยูเครนทั้งทางอากาศ, ทางบกและทะเล แม้ว่าจะมีข้อเสนอจากรัสเซียให้สร้างเส้นทางปลอดภัยสำหรับการหลบหนีของพลเรือน ในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาเข้าสู่วันที่ 12 ในวันจันทร์ โดยเมืองมาริอูโปล, โวลนาวากา, ซูมีและคาร์คิฟ ถูกโจมตีอย่างหนัก 

ขัดขวางการอพยพของพลเรือนอีกครั้ง มีพลเรือนยังคงติดค้างอยู่ในเมืองมาริอูโปล ที่ถูกรัสเซียปิดล้อม โดยความพยายามหยุดยิง 2 ครั้งในเมืองมาริอูโปล ล้มเหลวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประชาชนในเมืองเริ่มตกอยู่ในชะตากรรมยากลำบาก ขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำ

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ความสามารถทางการบินของเครื่องบินรบยูเครนเกือบทั้งหมด ถูกทำลาย และเตือนว่า ประเทศเพื่อนบ้านอย่าจัดหาสนามบินสำหรับเครื่องบินรบของยูเครน กองทัพรัสเซีย ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครน 2,203 แห่ง ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการทางทหาร  

อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า ในจำนวนโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร มีฐานที่มั่นและศูนย์กลางการสื่อสารของกองทัพยูเครน  76 แห่ง, ระบบขีปนาวุธต่อต้านเครื่องบิน 111 แห่ง และสถานีเรดาร์ 71 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบินประมาณ 69 ลำบนพื้นถูกโจมตี และ 24 ลำถูกโจมตีกลางอากาศ ขณะที่ อากาศยานไร้คนขับอีก 62 ลำ ถูกทำลายด้วย

การยิงโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน ผลักดันให้ประชาชนอพยพข้ามพรมแดนยูเครนเข้าประเทศเพื่อนบ้าน ในฐานะผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1.7 ล้านคนแล้ว ขณะที่อีกจำนวนมากไร้ที่อยู่อาศัยในประเทศ หรือไม่ก็ติดค้างอยู่ในเมืองต่าง ๆ ที่ถูกรัสเซียยิงระเบิดโจมตีอย่างหนัก

ส่วนมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่ตั้งเป้าลงโทษรัสเซีย จนถึงขณะนี้ แทบไม่ได้ชะลอการบุกของรัสเซีย และทางรัฐบาลสหรัฐฯ แถลงว่า ขณะนี้ กำลังมีการหารือห้ามนำเข้าน้ำมันของรัสเซียกับประเทศในยุโรป ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าว ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 14 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นโตเกียวและฮ่องกง ดิ่งลง 

เสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังกล่าวในหลายเมืองทั่วประเทศ ซึ่งรวมทั้งกรุงเคียฟ และการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในเมืองคาร์คิฟ ซึ่งแทบจะถูกโจมตีทุกวันในช่วงหลายวันมานี้ ประธานเสนาธิการกองทัพบกยูเครน ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ศัตรูยังคงปฏิบัติการโจมตียูเครน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปิดล้อมกรุงเคียฟ, เมืองคาร์คิฟ, เชอร์นิฮิฟ, ซูมี และไมโคลายิฟ 

ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า กองทัพรัสเซียเริ่มสั่งสมกำลังเพื่อเตรียมโจมตีกรุงเคียฟ ส่วนในภาคใต้ของประเทศ เจ้าหน้าที่กองทัพภาค กล่าวว่า รัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มหมู่บ้านตุซลี ในภูมิภาคโอเดสซา จากทางทะเล โจมตีเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ และทางสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของทางการรัสเซีย รายงานว่าเกิดระเบิดครั้งใหญ่ไฟลุกท่วมคลังเชื้อเพลิงแห่งหนึ่งช่วงเช้าวันจันทร์ ในเมืองลูฮันสก์ ซึ่งเป็นเมืองที่กบฏแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย ยึดครองในเมืองเออร์ปิน ใกล้กรุงเคียฟ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ มีพลเรือนประมาณ 2,000 คน อพยพออกจากเมืองนี้ ที่อยู่ภายใต้การโจมตี แต่ถ้อยแถลงของตำรวจไม่ได้บอกเวลาที่ชัดเจนว่า การอพยพเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยภาพที่เผยแพร่โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในภูมิภาคเคียฟ แสดงให้เห็นพลเรือนพร้อมสัมภาระต่าง ๆ กำลังเดินไปตามถนน ขณะพวกเขาอพยพออกจากเมือง ซึ่งมีทหารยูเครนลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือพลเรือนขึ้นรถบัส

กองทัพรัสเซียยึดครองเมืองเออร์ปินได้แล้วประมาณร้อยละ 30 ส่วนที่เหลือยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน เมืองนี้ถูกโจมตีอย่างหนักในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระตุ้นให้ประชาชนต้องหลบหนีออกจากเมือง

ในเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน รัสเซียยิงโจมตีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และอพาร์ตเมนต์ ทำให้เศษซากต่าง ๆ กระจัดกระจายเกลื่อนพื้นด้านหน้าอาคาร และยังพบผู้เสียชีวิตอีกหลายคนใกล้กับรถยนต์คันหนึ่ง 

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แสดงความไม่พอใจความเสียหายและตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมกล่าวหาทหารรัสเซียว่า “ฆาตกรรมโดยเจตนา” 

เขากล่าวว่า เราจะไม่ให้อภัย, เราจะไม่ลืม จะลงโทษทุกคนที่กระทำป่าเถื่อนโหดร้ายในสงครามครั้งนี้บนแผ่นดินของเรา โลกนี้จะไม่มีความสงบเงียบ นอกจากหลุมศพ

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ให้คำมั่นว่าจะทำให้ยูเครน “เป็นกลาง” ไม่ว่าจะ “ด้วยการเจรจา หรือสงคราม” และยังคงการคาดการณ์ต่ำสำหรับการการเจรจาสันติภาพรอบสามที่กำหนดขึ้นในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น

12 วันของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตแล้วหลายร้อยคน และบาดเจ็บหลายพันคน คลื่นผู้อพยพเกิดขึ้นต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เรียกว่า เป็นวิกฤตผู้ลี้ภัยที่เพิ่มจำนวนรวดเร็วที่สุดของยุโรปตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 

นอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกจำนวนมาก ติดค้างอยู่ในเมือง รวมทั้งเมืองมาริอูโปล ซึ่งพยายามครั้งที่สองในการเปิดทางให้พลเรือนหลบหนีความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดจากความขัดแย้ง ล้มเหลวในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

โดยทั้งสองฝ่ายต่างกลางหาซึ่งกันและกันว่า ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ไอซีอาร์ซี (International Committee of the Red Cross – ICRC) เตือน “ฉากความเลวร้ายจากความทุกข์ยากของประชาชน” ในเมืองยุทธศาสตร์ชายฝั่งทะเลอาซอฟ ซึ่งครอบครัวหนึ่งที่สามารถหลบหนีออกจากเมืองได้ บอกว่า พวกเขาใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์โดยไม่มีเครื่องทำความร้อน หรือกระแสไฟฟ้า อาหารและน้ำก็หมด 

ขณะที่ บนถนนหนทาง พวกเขาเห็นศพเกลื่อนทุกที่ทั้งชาวรัสเซียและยูเครน พวกเขาเห็นประชาชนถูกฝังอยู่ในห้องใต้ดินด้วย

ส่วนในกรุงมอสโก เมืองหลวงรัสเซีย ถูกบังคับให้ต้องควบคุมการขายสินค้าจำเป็น เพื่อลดการเกร็งกำไรในตลาดมืด ขณะเดียวกัน บริษัทบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (American Express) หยุดทำธุรกิจในรัสเซียแล้วในวันอาทิตย์ หนึ่งวันหลังจากวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ประกาศหยุดทำธุรกิจในรัสเซียเช่นเดียวกัน 


เกาะติดสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ได้ที่นี่ 

https://www.tnnthailand.com/news/ukraine-russia-war


ภาพจาก AFP (แฟ้มภาพ)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง