ดูไบเปิดตัวโรงงานไฮโดรเจนสีเขียว "ระดับอุตสาหกรรม” แห่งแรกในภูมิภาค
ดูไบเป็นส่วนหนึ่งของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ แถมที่ตั้งก็ยังอยู่ในแหล่งที่เหมาะกับการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ จึงสามารถพัฒนาโรงงานผลิตไฮโดรเจน “สีเขียว” ในระดับอุตสาหกรรมได้สำเร็จ
พลังงานสะอาดถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลาย ๆ ประเทศเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น ล่าสุดที่ประเทศดูไบก็ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโรงงานผลิตไฮโดรเจน “สีเขียว” ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นโรงงานระดับอุตสาหกรรมแห่งแรกในเขตพื้นที่ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือโดยเป้าหมายสำคัญของโรงงานนี้ก็คือเป็นแหล่งสร้างพลังงานหมุนเวียนในระดับภูมิภาคนั่นเอง
โรงงานนี้เป็นโครงการนำร่องที่มาจากความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าและการประปาของประเทศดูไบ ร่วมกับบริษัท Siemens Energy และ Expo 2020 ซึ่งบริษัท Siemens Energy กล่าวว่าพลังงานที่ใช้ในโครงการนี้จะมาจาก “Mohammed bin Rashid Al Maktoum Solar Park” ซึ่งเป็นโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งเป้าให้มีกำลังการผลิตถึง 5,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2030 นี้
สำหรับไฮโดรเจนนั้น สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศระบุว่าเป็น “พลังงานอเนกประสงค์” เพราะไฮโดรเจนมีการใช้งานที่หลากหลายและสามารถนำไปใช้ในหลายภาคเช่นอุตสาหกรรมและการขนส่ง และมันยังสามารถผลิตได้หลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการใช้อิเล็กโทรลิซิส (electrolysis คือ กระบวนการผ่านกระแสไฟฟ้ากระแสตรงจากภายนอกเข้าไปในสารละลายอิเล็กโทรไลต์ แล้วทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี) โดยกระแสไฟฟ้าจะแยกน้ำออกเป็นออกซิเจนและไฮโดรเจน และหากไฟฟ้าที่ใช้ในกระบวนการนี้มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ลม หรือแสงอาทิตย์ บางคนก็จะเรียกว่าไฮโดรเจน "สีเขียว" หรือไฮโดรเจน "หมุนเวียน" อย่างไรก็ตามปัจจุบันในการสร้างไฮโดรเจนส่วนใหญ่นั้นจะอาศัยเชื้อเพลิงฟอสซิล และการผลิตไฮโดรเจน "สีเขียว" นั้นมีราคาแพง
จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC คุณ Christian Bruch ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Siemens Energy ได้อธิบายว่าบริษัทของเขาได้ลงทุนเป็นเงินจำนวนมากเพื่อใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ซึ่งจากเดิมทุกคนอาจจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาโครงการให้ใช้งานได้ในระดับอุตสาหกรรมและระดับภูมิภาค แต่เขามองเห็นความเป็นไปได้ของโครงการนี้ และหลาย ๆ ส่วนของโครงการหากได้รับการพัฒนาก็คาดว่าจะสามารถเร่งให้ใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ในเร็วกว่าที่คิด
และที่สำคัญดูไบเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็เป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบและก๊าซรายใหญ่ในสมาชิกกลุ่มโอเปค แหล่งที่ตั้งของประเทศยังเหมาะสำหรับการติดตั้งแหล่งผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ ดังนั้นหากพิจารณาความเป็นไปได้ที่จากเดิมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในการผลิตเชื้อเพลิงจากฟอซซิลแล้ว ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะเป็นไปได้ว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อาจจะกลายเป็นผู้ส่งออกไฮโดรเจนรายสำคัญของโลกด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก
