Rabbit R1 อุปกรณ์เอไอพกพา ผู้ช่วยอัจฉริยะในมือคุณ

เปิดตัว Rabbit R1 อุปกรณ์เอไอพกพา รับฟังคำสั่งและจัดการงานผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ เสมือนเป็นผู้ช่วยเอไอในมือเรา

กระแสของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือว่าเอไอ ทำให้เราได้เห็นผลงานใหม่ ๆ ที่อาจจะมาพลิกโฉมโลกไอทีกันอีกแล้ว เมื่อสตาร์ตอัปจากสหรัฐฯ เปิดตัวอุปกรณ์เอไอสุดล้ำในชื่อ แรบบิท อาร์วัน (Rabbit R1) ที่ดูแล้วคล้ายกับสมาร์ตโฟนเครื่องเล็กสุดน่ารัก แต่มาพร้อมความสามารถในการรับฟังคำสั่งและจัดการงานผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้เสมือนเป็นผู้ช่วยเอไอในมือเรา

ภาพจาก Rabbit

ตัวอุปกรณ์ ออกแบบมาในรูปทรงสี่เหลี่ยม มีขนาดเท่ากับปึกกระดาษ Post-it ที่เราคุ้นเคยกันดี ส่วนน้ำหนักก็เบา อยู่ที่ 115 กรัมเท่านั้น ทำให้สามารถพกใส่ในกระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกงได้ง่าย ๆ

ส่วนด้านหน้าของอุปกรณ์ จะมีจอสัมผัสขนาด 2.88 นิ้ว ด้านข้างจะมีล้อเลื่อนเล็ก ๆ ทำหน้าที่เป็นเหมือนปุ่มหมุนผ่านการ์ดการทำงานต่าง ๆ บนจอ ตัวเครื่องมีกล้องใช้ในการรับภาพ มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว รองรับการโทรผ่านวิดีโอได้ และสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ wifi พร้อมใส่หน่วยความจำขนาด 4 กิกกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 128 กิกกะไบต์ (GB) และพอร์ต USB-C รวมถึงช่องใส่ซิมการ์ดมาให้ในตัว

ตัวอุปกรณ์ทำงานโดยใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่จากบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) เจ้าของผลงานดังอย่างแชตจีพีที (ChatGPT) เพื่อใช้ทำความเข้าใจคำขอต่าง ๆ และใช้ในการตอบสนองต่อคำสั่ง ด้วยการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน

ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานอาจจะออกคำสั่งว่าให้อุปกรณ์ช่วยเรียกรถรับส่งมารับที่บ้าน เพื่อเดินทางไปสถานที่ทำงาน จากนั้นให้มันเลือกเปิดเพลงให้ฟังระหว่างเดินทาง และให้ช่วยส่งข้อความไปแจ้งทีมที่บริษัท ว่าผู้ใช้งานอาจจะเดินทางไปถึงที่ทำงานสายสักหน่อย โมเดลเอไอที่อยู่ภายในอุปกรณ์ ก็รับฟังคำสั่งทั้งหมดแล้วประมวลผล และเชื่อมต่อกับแอปที่เกี่ยวข้อง ทั้งแอปพลิเคชันเรียกรถรับส่ง แอปพลิเคชันเพลง และแอปพลิเคชันข้อความ เพื่อทำตามคำสั่งที่ได้รับ

ทั้งนี้ เจซซี หลิว (Jesse Lyu) ซีอีโอของบริษัท แรบบิท (Rabbit) กล่าวว่า ไอเดียของการพัฒนาอุปกรณ์ชิ้นนี้ มาจากการที่ในปัจจุบัน บนสมาร์ตโฟนของเรามีแอปพลิเคชันอยู่หลายร้อยแอป แต่แอปพลิเคชันเหล่านั้นกลับไม่ทำงานร่วมกัน เขาจึงหวังว่า อุปกรณ์นี้ จะเป็นเหมือนตัวช่วยทำหน้าที่ประสานการทำงานของแอปพลิเคชันต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้มากขึ้น

โดยบริษัทได้เปิดตัวอุปกรณ์นี้ในงานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก CES 2024 และเคาะราคาจำหน่ายออกมาแล้ว อยู่ที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6,900 บาท คาดว่าพร้อมวางจำหน่ายเดือนเมษายนนี้