แบตเตอรี่จากสนิม ! จุไฟเยอะ และถูกมาก ฝีมือสตาร์ตอัปทุนบิล เกตส์และเจฟ เบโซส

ฟอร์ม เอเนอร์จี (Form Energy) สตาร์ตอัปที่มีทุน 2 มหาเศรษฐีชื่อดังหนุนหลังได้สร้างแบตเตอรี่เก็บไฟฟ้าระดับกิกะวัตต์ต้นทุนต่ำที่จ่ายไฟจากสนิมได้สำเร็จ

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมีราคาต่อหน่วยไฟฟ้าสูงเกิดจากแบตเตอรี่ที่ใช้กักเก็บไฟฟ้านั้นมีราคาสูงมาก บริษัท ฟอร์ม เอเนอร์จี (Form Energy) สตาร์ตอัปในสหรัฐอเมริกาจึงนำเสนอวิธีการใหม่สร้างแบตเตอรี่ระดับกิกะวัตต์ (Gigawatt) เก็บพลังงานไฟฟ้าจากสนิม แถมจุไฟฟ้าได้เยอะกว่าในราคาที่ต่ำ โดยบริษัทแห่งนี้ได้รับเงินลงทุนจาก 2 มหาเศรษฐีชื่อดังอย่าง บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้สร้างอาณาจักรไมโครซอฟท์ (Microsoft) และเจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) เจ้าของอาณาจักรแอมะซอน (Amazon) เพื่อรองรับการใช้พลังงานหมุนเวียนในอนาคต

แบตเตอรี่ต้นทุนต่ำแบบใหม่ สร้างไฟจากสนิม

แบตเตอรี่ดังกล่าวได้รับการออกแบบให้กักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างแผงโซลาร์เซลล์หรือกังหันลม โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าแบตเตอรี่ไอรอนแอร์ (Iron-air battery system) ในการเก็บพลังงาน มีต้นทุนเพียงร้อยละ 10 ของแร่ลิเทียมในขนาดความจุเดียวกัน กักเก็บพลังงานได้ถึง 710 เมกะวัตต์ (MW)

เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการใช้กระบวนการทางเคมีที่ทำให้เกิดสนิมเป็นตัวกักเก็บไฟฟ้า การชาร์จไฟจะทำโดยการปล่อยกระแสไฟใส่สนิมเพื่อทำให้อยู่ในรูปเม็ดโลหะขนาดเล็กโดยมีก๊าซออกซิเจนเป็นของแถม และเมื่อต้องการใช้ไฟก็จะให้โลหะเหล่านี้ทำปฏิกิริยากับก๊าซออกซิเจนอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะได้กระแสไฟฟ้าออกมา ส่วนเม็ดโลหะจะกลับไปอยู่ในรูปสนิมอีกครั้ง

ศักยภาพแบตเตอรี่ต้นทุนต่ำจากสนิม

แบตเตอรี่จากสนิมที่ฟอร์ม เอเนอร์จีสร้างนั้นใช้เวลา 100 ชั่วโมง ในการจ่ายไฟจนหมด เหมาะสำหรับการกักเก็บไฟให้กับชุมชนหรือเมืองแบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมืองที่สภาพอากาศแปรปรวนสูงทำให้การผลิตไฟฟ้าไม่สม่ำเสมอ (เช่น อังกฤษ) และไม่เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อม โดยกระบวนการชาร์จและจ่ายไฟจะใช้เพียงน้ำและอากาศเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่จากสนิมนั้นจำเป็นต้องใช้พื้นที่อย่างน้อย 2 ไร่ 2 งาน สำหรับกักเก็บไฟฟ้า 3 เมกะวัตต์ โดยทางบริษัทฟอร์ม เอเนอร์จี จะทำระบบสาธิตแบตเตอรี่จากสนิม 10 เมกะวัตต์ กำลังจ่าย 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง บนพื้นที่ 12 ไร่ 2 งาน ในรัฐมินเนโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่ของเอกซ์เซล (Xcel) บริษัทพลังงานหมุนเวียนในประเทศ โดยคาดว่าจะก่อสร้างในปี 2024 ก่อนเปิดใช้งานในปี 2025 ต่อไป