"ถุงน้ำในรังไข่" เกิดจากอะไร เปิดสาเหตุ อาการ และวิธีสังเกตตัวเองเบื้องต้น
"ถุงน้ำในรังไข่" เกิดจากอะไร เปิดสาเหตุ อาการ และวิธีสังเกตตัวเองเบื้องต้น
ถุงน้ำในรังไข่ หรือ ซีสต์ในรังไข่ เป็นความผิดปกติที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและจะยุบไปเองโดยไม่ต้องรักษา แต่บางกรณีก็อาจสร้างความรำคาญและส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมได้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปดูถึงสาเหตุ อาการ และวิธีสังเกตตัวเองเบื้องต้นของถุงน้ำในรังไข่ ว่ามีวิธการอย่างไรบ้าง
ถุงน้ำในรังไข่ คืออะไร?
ถุงน้ำในรังไข่ หรือ ซีสต์ในรังไข่ (Ovarian Cyst) เป็นถุงที่เต็มไปด้วยของเหลวที่เกิดขึ้นบนรังไข่ของผู้หญิง พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย และจะยุบไปเองโดยไม่ต้องรักษา แต่ทั้งนี้อาจต้องพิจารณาเกี่ยวกับชนิดเป็นหลักด้วย
ถุงน้ำในรังไข่ เกิดจากอะไร?
สำหรับสาเหตุของการเกิดถึงน้ำในรังไข่ สามารถเกิดได้จากปัจจัยเหล่านี้
• การตกไข่
โดยปกติร่างกายของผู้หญิงจะเกิดการตกไข่ในทุกๆ เดือน โดยการตกไข่นี้ จะทำให้เกิดถุงน้ำที่เรียกว่าฟอลลิเคิล เป็นถุงน้ำชนิดที่พบบ่อยที่สุด เกิดขึ้นเมื่อรังไข่สร้างไข่ ถุงน้ำเหล่านี้ไม่เป็นอันตราย มักจะแตกออกเพื่อปล่อยไข่ และยุบไปเองภายใน 1-2 วัน
• เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจเกาะบนรังไข่ เกิดการอักเสบและก่อตัวเป็นถุงน้ำที่มักมีของเหลวสีน้ำตาลอยู่ข้างใน โดยถุงน้ำที่เป็นในลักษณะนี้เราจะเรียกว่า “ช็อกโกแลตซีสต์” นั่นเอง
• การแบ่งเซลล์ผิกปกติ
การแบ่งเซลล์ผิกปกติ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดถุงน้ำในรังไข่ได้เช่นกัน โดยถุงน้ำในรังไข่ที่เกิดจากการแบ่งเซลล์ผิดปกตินี้ มักพบพร้อมเส้นผม ไขมัน และฟัน เป็นต้น
อาการเบื้องต้นที่สามารถสังเกตได้ เมื่อมีภาวะถุงน้ำในรังไข่
1. ปวดบริเวณท้องด้านล่างหรือด้านข้าง
2. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และมักเกิดขึ้นพร้อมกับอาการปวดท้อง
3. รู้สึกแน่นหรืออึดอัดในท้อง
4. ถุงน้ำบางชนิดอาจทำให้รู้สึกเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์
5. ประจำเดือนมาผิดปกติ เช่น มีประจำเดือนมากผิดปกติ หรือมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน
โดยหากใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้ อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นภาวะถุงน้ำในรังไข่ได้ ดังนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ที่มาข้อมูล : RAMA CHANEL,โรงพยาบาลศิครินทร์
ข่าวแนะนำ