TNN online โควิดยังหนัก! "เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์เที่ยวไทย" มีแววเลื่อนยาว

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

โควิดยังหนัก! "เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์เที่ยวไทย" มีแววเลื่อนยาว

โควิดยังหนัก! เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์เที่ยวไทย มีแววเลื่อนยาว

โครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และ ทัวร์เที่ยวไทย’ มีแววเลื่อนยาว หลังสถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลาย และยังไม่อยากฟันธงจะเริ่มได้เดือนไหน ขอรอดูสถานการณ์ในประเทศก่อน

วันนี้( 9 พ.ค.64) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 และยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้นั้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เห็นควรว่า ต้องชะลอโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวออกไปก่อน ทั้งเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลต้องการเน้นให้คนอยู่บ้านหรืออยู่กับที่ให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด หากออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวขณะนี้ จะสวนทางกับนโยบายของรัฐบาล บวกกับไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนเท่าที่ควร 


โดยเบื้องต้นยืนยันแล้วว่า จะชะลอการดำเนินทั้ง 2 โครงการออกไปก่อน ส่วนจะเริ่มวางไทม์ไลน์ในการเริ่มต้นโครงการใหม่ในเดือนใดนั้น ขณะนี้ขอดูความเหมาะสมอีกครั้งรวมถึงประเมินสถานการณ์การระบาดโควิดร่วมด้วย ว่าจะสามารถคุมได้แน่นอนในช่วงใด เพราะหากประกาศกำหนดชัดเจนออกมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถคุมโควิดได้ ก็อาจทำให้ต้องกลับมาชะลอโครงการออกไปอีกครั้ง


ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงผลการหารือร่วมกับคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามแนวทางการเปิดประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยได้เสนอให้พิจารณาในเรื่องการจัดสรรวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 3.5 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับบุคลากรท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นด่านหน้าที่ต้องให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากประเทศไทยสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้แล้ว โดยขั้นตอนต่อไป ต้องประสานกับสาธารณสุข เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดในการหาวัคซีนให้ได้ตามที่เสนอไป รวมถึงต้องสำรวจจังหวัดและพื้นที่ที่กำหนดให้นำร่องรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ว่ามีความต้องการวัคซีนจำนวนเท่าใด เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกันขึ้น รวมถึงที่ประชุมได้อนุมัติให้เพิ่มพื้นที่นำร่องตามแผนเปิดประเทศในไตรมาส 4/2564 หรือ ช่วงเดือนตุลาคมนี้ อีก 4 พื้นที่ใหม่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และบุรีรัมย์ จากเดิมมี 6 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี (สมุย-พะงัน-เกาะเต่า) ชลบุรี (พัทยา) และเชียงใหม่ รวมเป็น 10 จังหวัดนำร่องหลัก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ซึ่งจะเน้นเฉพาะผู้ที่ฉีดได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้จะนำข้อเสนอที่ผ่านการเห็นชอบแล้วเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ภายในเดือนพฤษภาคมนี้เพื่อพิจารณาต่อไป

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง