สรุปข่าว
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ที่มีขึ้นในวันนี้ (5 พ.ย.) ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ต้องเป็นพลเมืองชาวอเมริกันที่มีอายุ 18 ขึ้นไป และต้องลงทะเบียน ซึ่งสามารถลงได้ผ่านทางออนไลน์ โดยแต่ละรัฐจะมีขั้นตอนและวันปิดรับการลงทะเบียนที่แตกต่างกันออกไป
ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯตามปกติแล้วจะทราบผลไม่นาน โดยเวลาเลือกตั้งสหรัฐฯจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละรัฐ เนื่องจากเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ และมีเขตเวลา หรือ Time Zone ที่แตกต่างกัน โดยเราสามารถติดตามผลการเลือกตั้งสหรัฐตั้งแต่ 05.00 น. ของวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน ตามเขตเวลาตะวันออก หรือ Eastern Time Zone
หรือตรงกับ 17.00 น. ของวันอังคารตามเวลาในประเทศไทย และจะไปสิ้นสุดลงในเวลา 01.00 น. ของเช้าวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน ตามเขตเวลาตะวันออก หรือ 13.00 น. ของวันพุธตามเวลาในบ้านเรา
ทั้งนี้ประชาชนทุกรัฐทั่วประเทศจะลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี พร้อมผู้สมัครดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนที่ตนชื่นชอบเพียงเสียงเดียว โดยการเลือกเหล่านี้จะส่งไปถึงบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “ผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี” ซึ่ง“ผู้เลือกตั้ง” คือตัวแทนจากแต่ละรัฐ ซึ่งจะมีจำนวนเป็นสัดส่วนกับจำนวนประชากรของรัฐ โดยผู้เลือกตั้งทั้งหมดมีจำนวน 538 คน
หากผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนในรัฐ (ยกเว้นรัฐเมนและเนแบรสกา) ผู้สมัครคนนั้นจะได้คะแนนผู้เลือกตั้ง (electoral vote) ทั้งหมดของรัฐนั้น ๆ และผู้ที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากผู้เลือก ตั้งไม่ต่ำกว่า 270 เสียง
วันที่ 17 ธันวาคม 2024 คณะผู้เลือกตั้งจะประชุมกันเพื่อลงคะแนน และส่งผลการลงคะแนนให้สภาคองเกรส คนที่ชนะ 270 คะแนน จะได้เป็นประธานาธิบดี นั่นหมายความว่า ถึงแม้ว่าผู้ท้าชิงจะได้รับคะแนนมากที่สุดจากเสียงของประชาชน หรือที่เรียกว่า popular vote แต่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่จะนับจากคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral Vote สูงสุดจากทั้งหมด 50 รัฐ และ 1 เขตพิเศษ
การรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม 2025 โดยในวันนั้น ตำรวจรัฐสภาของสหรัฐฯได้เตรียมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเอาไว้เป็นพิเศษ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่จะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นทุก ๆ 4 ปี หลังการเลือกตั้งฯ แต่ถ้าหากตรงกับวันอาทิตย์ ก็จะเลื่อนไปเป็นวันที่ 21 มกราคมแทน
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand
