ทดสอบรถบัสไร้คนขับ ในบาร์เซโลนา มุ่งพัฒนาระบบขนส่งอัตโนมัติในยุโรป

การทดสอบนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัทเรโนลต์ (Renault) และบริษัทวีไรด์ (WeRide) ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์อัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายเพื่อแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีรถโดยสารไร้คนขับในสภาพแวดล้อมจริงบนท้องถนนที่มีการจราจรหนาแน่น

รถโดยสารไฟฟ้าคันนี้สามารถวิ่งได้เป็นระยะทาง 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และทำความเร็วสูงสุด 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งกล้อง 10 ตัวและเซ็นเซอร์ไลดาร์ 8 ตัว เพื่อตรวจจับสภาพแวดล้อมและนำทางอย่างปลอดภัย

โดยหัวหน้าโครงการการเคลื่อนที่อัตโนมัติของเรโนลต์ กล่าวว่า การทดสอบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับในยุโรป ซึ่งปัจจุบันตามหลังสหรัฐอเมริกาและจีน

อีกทั้งเขายังกล่าวอีกด้วยว่า ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาและจีนกำลังทำการทดลองยานยนต์อัตโนมัติอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ยุโรปยังคงมีการพัฒนาที่ช้ากว่า ซึ่งเรโนลต์ต้องการแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้จริง และเตรียมความพร้อมให้ยุโรปสำหรับระบบขนส่งสาธารณะแห่งอนาคต

นอกจากการทดสอบครั้งนี้ในบาร์เซโลนาแล้ว เรโนลต์ยังมีโครงการทดสอบยานยนต์ไร้คนขับในเมืองวาเลนซ์ ประเทศฝรั่งเศส และสนามบินซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย

อีกทั้งเรโนลต์ยังได้ประกาศกลยุทธ์การพัฒนายานยนต์อัตโนมัติ โดยมุ่งเน้นไปที่สองแนวทางหลัก ได้แก่ การพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล และการพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าไร้คนขับสำหรับระบบขนส่งสาธารณะ 

สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล เรโนลต์มุ่งเน้นการพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ โดยช่วยให้รถยนต์สามารถควบคุมความเร็วและรักษาช่องทางเดินรถได้โดยอัตโนมัติ และในส่วนของระบบขนส่งสาธารณะ เรโนลต์เชื่อว่ารถโดยสารไฟฟ้าไร้คนขับจะเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสำหรับเมืองใหญ่ในอนาคต ซึ่งมีเป้าหมายให้รถสามารถขับเคลื่อนได้โดยอัตโนมัติภายใต้การควบคุมจากระยะไกล

เรโนลต์มีแผนที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มรถโดยสารไฟฟ้าไร้คนขับภายในปี 2030 โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ เช่น วีไรด์ เพื่อนำเสนอโซลูชันระบบขนส่งอัตโนมัติที่หลากหลาย