เกาหลีใต้ยืนยัน กำลังหารือแผนการนิวเคลียร์ร่วมกับสหรัฐฯ แม้ ‘ไบเดน’ ปฏิเสธ
ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยืนยันกำลังหารือเรื่องแผนการนิวเคลียร์ร่วมกับสหรัฐฯ รับมือกับภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ แม้ ‘ไบเดน’ ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้วก็ตาม
---‘ไบเดน’ ปฏิเสธคำกล่าวของผู้นำเกาหลีใต้---
ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์ยืนยันในวันอังคารนี้ว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ กำลังหารือเรื่องแผนการร่วมและแผนปฏิบัตินิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เพื่อรับมือกับเกาหลีเหนือ
แถลงการณ์ล่าสุดดังกล่าว ถือว่าขัดแย้งกับคำกล่าวของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ที่ยืนยัน เมื่อวานนี้ว่า ไม่ได้กำลังหารือการซ้อมรบร่วมนิวเคลียร์กับเกาหลีใต้
ด้าน คิม อึนเฮ เลขาธิการฝ่ายข่าวของประธานาธิบดียุน ซ็อกยอลกล่าวว่า ไบเดนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องตอบว่า “ไม่” เพราะผู้สื่อข่าวถามเขาว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ กำลังหารือเรื่องการซ้อมรบทางนิวเคลียร์หรือไม่
คิม ระบุว่า เพื่อเป็นการรับมือกับอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ จึงกำลังหารือแนวทางในการแบ่งปันข่าวสารเกี่ยวกับปฏิบัติการของสินทรัพย์นิวเคลียร์สหรัฐฯ และวางแผนร่วมกัน ตลอดจนใช้งานร่วมกันตามลำดับ
ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาว ย้ำว่า การซ้อมรบร่วมทางนิวเคลียร์กับเกาหลีใต้นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะเกาหลีใต้ไม่ได้เป็นชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ แต่พันธมิตรกำลังมองหาแนวทางในการยกระดับการแบ่งปันข้อมูล การวางแผนฉุกเฉินร่วมกัน และนำไปสู่การซ้อมรบร่วมกันในท้ายที่สุด
--- เกาหลีใต้ยืนยันกำลังหารือสหรัฐฯ---
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (2 มกราคม) หนังสือพิมพ์ Chosun Ilbo ของเกาหลีใต้ ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล ของเกาหลีใต้ว่า เกาหลีใต้กับสหรัฐฯ กำลังหารือถึงความเป็นไปได้ในการซ้อมรบร่วม โดยจะใช้ “ทรัพย์สิน” ด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
ยุน ระบุว่า อาวุธนิวเคลียร์ที่จะนำมาใช้ซ้อมรบร่วมจะเป็นของสหรัฐฯ แต่การวางแผน การแบ่งปันข้อมูล การซ้อมและการฝึกรบ จะกระทำร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ
หนังสือพิมพ์ Chosun Ilbo รายงานด้วยว่า วัตถุประสงค์ในการวางแผนและการซ้อมรบร่วมดังกล่าว สอดคล้องกับโยบาย “ขยายการป้องปราม” ของสหรัฐฯ และสหรัฐฯ มีความเห็นในทางบวก ต่อแนวคิดการจัดการซ้อมรบร่วมนิวเคลียร์ดังกล่าว
นโยบาย “ขยายการป้องปราม” ของสหรัฐฯ หมายถึง การขยายการใช้ศักยภาพของกองทัพสหรัฐฯ โดยเฉพาะกองกำลังนิวเคลียร์ ไปช่วยป้องปรามการโจมตีประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ด้วย
บทสัมภาษณ์ของยุนออกมา 1 วัน หลังจากสื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือเพิ่งรายงานว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เรียกเกาหลีใต้ว่าเป็น “ศัตรูอย่างไม่ต้องสงสัย” ของเกาหลีเหนือ พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป หรือ ICMB ชนิดใหม่ และให้ขยายคลังแสงนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ “ให้เพิ่มแบบยกกำลัง”
บทสัมภาษณ์ของยุนยังออกมาหลังจากเกาหลีเหนือเพิ่งยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ไป 2 รอบ ในวันสิ้นปี 3 ลูก และในวันปีใหม่อีก 1 ลูก
---ปี 2023 อาจเป็นปีแห่งความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี---
ทั้งนี้ ฮง มิน นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบันรวมชาติเกาหลี ระบุว่า ปีนี้จะเป็นปีแห่งวิกฤต ด้านความตึงเครียดทางกองทัพบนคาบสมุทรเกาหลี และจะรุนแรงยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2017 เสียอีก
เนื่องจากจุดยืนที่แข็งกร้าวของเกาหลีเหนือ บวกกับแนวนโยบายที่ไม่อ่อนข้อของผู้นำเกาหลีใต้ ตลอดจนการเดินหน้าซ้อมรบอย่างเต็มกำลังระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตร ยิ่งเป็นการเติมเชื้อเพลิงเข้าใส่กองไฟ
—————
แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง
ภาพ: Reuters
ข้อมูลอ้างอิง:
