แชร์เทคนิค "ออกกำลังกาย" สามารถทำง่ายๆ ได้ที่บ้านไม่ยุ่งยาก
![แชร์เทคนิค ออกกำลังกาย สามารถทำง่ายๆ ได้ที่บ้านไม่ยุ่งยาก แชร์เทคนิค ออกกำลังกาย สามารถทำง่ายๆ ได้ที่บ้านไม่ยุ่งยาก](/static/web/123165/90324d6d-860b-4d82-be39-51e902634ef4-600.webp)
แชร์เทคนิค วิธีการออกกำลังกาย สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีอุปกรณ์ก็ทำได้ สร้างภูมิคุ้มกันช่วงหน้าฝน
วันนี้ TNN ONLINE ขอแชร์ข้อมูลดีๆ สำหรับเทคนิค วิธีการออกกำลังกาย ที่สามารถทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันช่วงหน้าฝนนี้
เป็นที่ทราบกันดีว่าตลอดช่วงเดือนสิงหาคม ประเทศไทยต้องเผชิญกับฝนตกหนักในหลายพื้นที่ เนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ซึ่งฝนที่ตกลงมาทำให้หลายๆ คนไม่สะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการออกกำลังกายนอกบ้าน ทั้งตามสถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส หรือสวนสาธารณะ
ข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ระบุไว้ว่า ในช่วงหน้าฝนหรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ประชาชนจึงควรใส่ใจสุขภาพของตนเองเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมในที่สุด
![แชร์เทคนิค ออกกำลังกาย สามารถทำง่ายๆ ได้ที่บ้านไม่ยุ่งยาก](/static/details/naqXu5RixN-600.jpeg)
ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน
ดังนั้น จึงควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน อาทิ เดิน วิ่งเหยาะๆ ขี่จักรยาน หรือเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หรือทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ซึ่งการเริ่มต้นออกกำลังกายนั้น
ควรเริ่มจากเบาๆ ระยะเวลาน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัว
จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มความหนักขึ้น และการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง ให้รู้สึกหายใจเร็วขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น มีเหงื่อออกซึมๆ แต่ยังสามารถพูดคุยได้ ไม่ถึงกับหอบหรือหายใจไม่ทัน ไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อยมาก
โดยทำเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที หรือสามารถออกกำลังกาย สะสมเป็นช่วง ช่วงละ 10 นาที เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูระบบไหลเวียนโลหิตและหายใจ รวมถึงระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
![แชร์เทคนิค ออกกำลังกาย สามารถทำง่ายๆ ได้ที่บ้านไม่ยุ่งยาก](/static/details/UrBId-GcLU-600.jpeg)
วิธีการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่บ้าน
- การเดินเร็วรอบๆ บ้าน
- กระโดดเชือก
- เต้นแอโรบิก โยคะ
- บอดี้เวท หรือเลือกใช้สิ่งของทดแทน เช่น การยกน้ำหนัก โดยใช้ขวดน้ำแทน
- ทำงานบ้าน การเดิน หรือเปิด Youtube ดูตัวอย่างการออกกำลังกายสามารถทำตามได้ทันที
เราสามารถวางแผนก่อนการออกกำลังกายได้ ดังนี้
1. เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับตนเอง เริ่มจากกิจกรรมเบาๆ เช่น ยืน เดิน แล้วค่อยๆเพิ่มเป็น แกว่งแขน เดินเร็ว วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ควรอบอุ่นร่างกาย และมีการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อก่อนและหลังออกกำลังกายทุกครั้ง
2. ในระหว่างออกกำลังกายพยายามหายใจให้ปกติ ควรสังเกตการหายใจไม่ให้ติดขัด และสามารถพูดคุยได้โดยไม่เหนื่อยหอบ ไม่ควรออกกำลังกายหนักจนเกินไป แต่ควรเน้นที่ระยะเวลาในการออกกำลังกายที่เหมาะสม
3. ระยะเวลาอาจค่อยๆเริ่มจาก 5-10 นาที แล้วเพิ่มระยะเวลาขึ้นเรื่อยๆ และควรออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง 20-30 นาที
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 3-5 วัน/สัปดาห์
5. ไม่ควรออกกำลังกายหรือหยุดออกกำลังกายทันทีเมื่อมีอาการดังนี้ คือ เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย เหงื่อออกมาก มือเท้าเย็นซีด เหนื่อยผิดปกติ
ดังนั้น ควรออกกำลังกายด้วยความระมัดระวัง เพื่อทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีห่างไกลโรคส่งผลให้การดำรงชีวิตและการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ตัวช่วยสร้างภูมิต้านทานและมีสุขภาพแข็งแรง
นอกจากการออกกำลังกายที่จะช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายแล้ว ควรกินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น
- พริกหวาน
- ปวยเล้ง
- มะระขี้นก
- ผักหวาน
- ขี้เหล็ก
-ใบกะเพรา
- มะนาว
- ฝรั่ง
- มะละกอ
- ส้มโอ
- มะเฟือง
- ส้มเขียวหวาน
- กล้วยน้ำว้า
รวมทั้งควรกินอาหารที่ปรุงสุกร้อน และดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำอุ่น อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย
![แชร์เทคนิค ออกกำลังกาย สามารถทำง่ายๆ ได้ที่บ้านไม่ยุ่งยาก](/static/details/E6Lx8zW6DT-600.jpeg)
นอกจากนี้ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและมีสุขภาพแข็งแรงในระยะยาว
ข้อมูลอ้างอิงจาก กรมอนามัย / กรมการแพทย์
ภาพจาก AFP / TNN ONLINE