นาซาใส่ชื่อนักบินอวกาศ 2 คน ลงในหอเกียรติยศนักบินอวกาศสหรัฐฯ
นาซาใส่ชื่อนักบินอวกาศ 2 คน ลงในหอเกียรติยศนักบินอวกาศสหรัฐฯ ประกอบด้วยนักบินอวกาศ รอย ดี. บริดเจส จูเนียร์ (Roy D. Bridges Jr.) และมาร์ค เคลลี (Mark Kelly)
วันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นาซาได้ทำการบันทึกชื่อของนักบินอวกาศ 2 คน ประกอบด้วยนักบินอวกาศ รอย ดี. บริดเจส จูเนียร์ (Roy D. Bridges Jr.) และมาร์ค เคลลี (Mark Kelly) ลงในหอเกียรติยศนักบินอวกาศสหรัฐอเมริกา (US Astronaut Hall of Fame)
“ในฐานะนักบินอวกาศของนาซามาร์ค เคลลี และรอย ดี. บริดเจส จูเนียร์ ทำให้พวกเราแหงนหน้ามองไปข้างหน้าและออกไปสู่สิ่งที่ไม่รู้จัก หลังจากเวลาสำรวจอวกาศทั้งคู่ยังคงทำงานให้กับนาซาและประเทศสหรัฐอเมริกาของเราต่อไป ชาวอเมริกันและผู้คนจากทั่วโลกจะยังคงมาที่หอเกียรติยศนักบินอวกาศต่อไป หลายคนเป็นสมาชิกของ Artemis Generation ซึ่งจะได้พบกับแรงบันดาลใจไม่รู้จบในเรื่องราวของนักสำรวจ นักผจญภัย และผู้บุกเบิกในตำนานของนาซา” บิล เนลสัน (Bill Nelson) ผู้บริหารนาซากล่าวเชิดชูเกียรติให้กับนักบินอวกาศทั้ง 2 คน
นักบินอวกาศรอย ดี. บริดเจส จูเนียร์ (Roy D. Bridges Jr.)
รอย ดี. บริดเจส จูเนียร์ (Roy D. Bridges Jr.) เกิดที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย แต่ไปเติบโตที่เมืองเกนส์วิลล์ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยกองทัพอากาศ (US Air Force Academy) โคโลราโดสปริงส์ รัฐโคโลราโด ซึ่งเขาได้รับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ต่อมาเขาได้รับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิทยาศาสตร์อวกาศจากมหาวิทยาลัยเพอร์ดูในรัฐอินเดียนา
ในฐานะนักบินอวกาศของนาซาบริดเจสเคยเป็นนักบินบนกระสวยอวกาศชาเลนเจอร์ในภารกิจ STS-51F หรือที่เรียกว่า Spacelab 2 ซึ่งเดินทางขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 29 กรกฎาคม 1985 และเดินทางกลับโลกในวันที่ 6 สิงหาคม ภารกิจ STS-51F บรรทุกโมดูล Spacelab 2 ซึ่งบรรทุกเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ พลาสมาฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ดาราศาสตร์พลังงานสูง ฟิสิกส์สุริยะ ฟิสิกส์บรรยากาศ และการวิจัยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
นักบินอวกาศมาร์ค เคลลี (Mark Kelly)
มาร์ค เคลลี (Mark Kelly) เกิดที่เมืองออเรนจ์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิศวกรรมทางทะเลและวิทยาศาสตร์การเดินเรือจากโรงเรียนพาณิชย์นาวีแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Merchant Marine Academy) ในปี 1986 เขาได้รับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมการบินจาก US Naval Postgraduate School ในปี 1994
มาร์ค เคลลีได้รับเลือกให้เป็นนักบินอวกาศของนาซาในปี 1996 เขาเป็นพี่ชายฝาแฝดของสก็อต เจ. เคลลี (Scott J. Kelly) นักบินอวกาศของนาซาที่ได้รับการยกย่องในหอเกียรติยศนักบินอวกาศสหรัฐอเมริกามาแล้ว การเดินทางสู่อวกาศครั้งแรกของมาร์ค เคลลี (Mark Kelly) คือ การเป็นนักบินในภารกิจ STS-108 บนกระสวยอวกาศ Endeavour ในเดือนธันวาคม 2001 ขนส่งอุปกรณ์ เสบียง และลูกเรือใหม่กว่า 3 ตัน ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ISS มาร์ค เคลลีทำหน้าที่ควบคุมการใช้แขนหุ่นยนต์ของกระสวยอวกาศเพื่อยกโมดูลลอจิสติกส์อเนกประสงค์ (Raffaello) ออกจากช่องใส่น้ำหนักบรรทุก และติดเข้ากับท่าเทียบเรือบนโมดูล Unity ของสถานีอวกาศนานาชาติ ISS
มาร์ค เคลลี (Mark Kelly) ทำหน้าที่เป็นนักบินอีกครั้งในภารกิจ STS-121 บนกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี่ในเดือนกรกฎาคม 2006 ซึ่งเป็นภารกิจกระสวยอวกาศครั้งที่สองหลังจากการสูญเสียกระสวยอวกาศโคลัมเบียไปในปี 2003
ภารกิจแรกของมาร์ค เคลลี (Mark Kelly)ในฐานะผู้บัญชาการ คือ ภารกิจ STS-124 บนกระสวยอวกาศ Discovery มาร์ค เคลลี (Mark Kelly) และทีมงานของเขาส่งมอบโมดูลแรงดันสำหรับห้องปฏิบัติการ Kibo ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ISS โมดูลนี้เป็นส่วนประกอบที่ใหญ่ที่สุดของห้องปฏิบัติการสำหรับองค์การอวกาศญี่ปุ่น JAXA (Japan Aerospace Exploration Agency)
มาร์ค เคลลี (Mark Kelly) ทำหน้าที่ผู้บัญชาการ STS-134 อีกครั้งบนเที่ยวบินสุดท้ายของกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์ ในเดือนพฤษภาคม 2011 ขนส่งอุปกรณ์ Alpha Magnetic Spectrometer (AMS) ไปทำการติดตั้งที่ด้านนอกของสถานีอวกาศนานาชาติ ISS โดย AMS เป็นเครื่องตรวจจับอนุภาคคอสมิกขนาด 15,000 ปอนด์ ที่จะช่วยให้นักวิจัยศึกษาการก่อตัวของจักรวาลและค้นหาหลักฐานของสสารมืดและปฏิสสาร
ชื่อของนักบินอวกาศรอย ดี. บริดเจส จูเนียร์ (Roy D. Bridges Jr.) และมาร์ค เคลลี (Mark Kelly) ได้รับการบันทึกให้เป็นนักบินอวกาศคนสำคัญในประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศขององค์การนาซาและประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับนักบินอวกาศคนอื่น ๆ
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ NASA
