สหรัฐฯ ทำรอกหย่อนสินค้าจากโดรน ยกระดับส่งของด้วยโดรนให้ดีขึ้น

บริษัทในสหรัฐอเมริกาอัปเกรดระบบการหย่อนสินค้าจากโดรนด้วยสายรอก จากเดิมเคยใช้ระบบร่มชูชีพ และมีลูกค้าทั้งจากโรงพยาบาลและร้านค้าต่อคิวนำไปใช้แล้ว

ซิปไลน์ (Zipline) บริษัทส่งของด้วยโดรนจากรัฐแคลิฟอร์เนียในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งเป้าเปลี่ยนแปลงระบบการจัดส่งสินค้าที่ปลายทางด้วยการสร้างแพลตฟอร์ม ทู (Platform 2: P2) ระบบจัดการสินค้าที่ปลายทางด้วยหุ่นยนต์ (Driod) แบบรอกไฟฟ้าซึ่งติดยึดใต้โดรนแบบบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งพลังงานไฟฟ้า (eVTOL: Electric Vertical Take-Off and Landing) จากระบบเดิมที่เคยใช้ร่มชูชีพซึ่งมีความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหาย

ระบบใหม่จะมีส่วนประกอบเป็นโดรนแบบ eVTOL และหุ่นยนต์ที่สามารถบรรจุสินค้าหรือพัสดุภายในได้ ซึ่งหุ่นยนต์จะติดใต้ตัวโดรนทำการบินไปยังจุดหมายปลายทางด้วยกัน เมื่อถึงตำแหน่งแล้วโดรนจะรักษาระดับการบินไม่ให้ต่ำกว่า 91 เมตร เพื่อทำการส่งสินค้า จากนั้นระบบควบคุมจะปล่อยหุ่นยนต์ที่มีสินค้าให้ลงไปตามตำแหน่งที่คำนวณไว้ และเพื่อให้การลงพื้นนั้นแม่นยำและนุ่มนวล ที่ท้ายหุ่นยนต์จะมีใบพัดซึ่งทำหน้าที่ออกแรงดันช่วยการลงจอดก่อนปล่อยสินค้าออกจากตัวหุ่นยนต์ ก่อนสายสลิงจะดึงกลับไปยังใต้โดรนอีกครั้งและบินจากไป

ระบบ P2 จะสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 3.6 กิโลกรัม มีรัศมีควบคุมการบินในระยะไม่เกิน 16 กิโลเมตร ด้วยอัตราเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวระบบสามารถชาร์จแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางการบินสูงสุด 39 กิโลเมตร

ทางบริษัท ซิปไลน์ (Zipline) กล่าวว่า ทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับเอกชนจากหลากหลายภาคอุตสาหกรรมเพื่อนำระบบ P2 ไปใช้เรียบร้อยแล้ว อาทิ โรงพยาบาลมิชิแกน (Michigan Medicine) ในรัฐมิชิแกน โรงพยาบาลอินเตอร์เมาน์เทน เฮลธ์ ในซอลต์เลกซิตี (Salt Lake City) รัฐยูทาห์ เพื่อการส่งยาให้กับผู้ป่วยทางไกล ลูกค้าเก่าอย่างรัฐบาลประเทศรวันดา (Rwanda) ก็จะนำไปใช้กับการจัดส่งเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ในภาคโรงแรม ตลอดจนสินค้าเพื่อการอยู่อาศัย และแม้แต่สวีทกรีน (Sweetgreen) เครือร้านขายของชำเพื่อสุขภาพชื่อดังของสหรัฐอเมริกาก็เตรียมนำไปใช้ส่งสินค้าให้กับลูกค้าของตัวเองด้วยเช่นกัน