ถึงกับช็อก ! เทรนเนอร์มวยไทยใส่ Apple Watch เผลอกดเรียกตำรวจมาหาถึงที่

เรื่องราวที่ทำเอางงกันทั้งโรงพักในออสเตรเลีย หลังมีสายแจ้งเหตุก่อการร้าย ทำให้ตำรวจ 15 นายบุกไปถึงยิมมวยไทยในนครซิดนีย์ แต่ปรากฎว่าไม่ได้มีเหตุร้ายแรงอะไร แค่มีคนเผลอกดไปโดนปุ่มโทรฉุกเฉินบน Apple Watch

เทรนเนอร์มวยไทยคนหนึ่งในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ถึงกับตกใจสุดขีด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกำลังติดอาวุธ บุกไปที่โรงยิม ขณะที่เขากำลังสอนนักเรียนต่อยมวยอยู่ เพราะได้รับแจ้งเหตุร้ายจากสายโทรผ่าน Apple Watch

ภาพจาก Jamie Alleyne

โดย เจมี่ อัลเลน (Jamie Alleyne) ครูฝึกมวยไทย เล่าว่าเช้าวันที่เกิดเหตุ จู่ ๆ ก็มีตำรวจเข้ามาสอบถามเหตุการณ์ที่โรงยิม เนื่องจากได้รับสายโทรแจ้งเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้น และขณะที่กำลังยืนงงกันอยู่ อีกไม่กี่อึดใจ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 15 นาย พร้อมรถพยาบาลอีกหลายคันเข้ามาสมทบ โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามหาตัวเจมี่ และบอกว่าเขาเป็นคนโทรแจ้งเหตุ ซึ่งเขายืนยันว่าไม่ใช่ เพราะตอนนั้นเขาไม่มีโทรศัพท์ติดตัว

อย่างไรก็ตามพอมาเช็กมือถือ เจมี่ก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่ามีประวัติการโทรออกจริง ๆ พอสืบสาวราวเรื่องถึงรู้ว่า ตอนซ้อมมวยกันอยู่ เจมี่ได้สวมนาฬิกา Apple Watch ไว้ พอต่อยไปต่อยมา แรงกดก็ไปโดนเอาปุ่มข้าง ๆ ซึ่งถ้ากดค้างนานพอ ก็จะเปิดใช้งานฟีเชอร์ Siri ซึ่งเป็นผู้ช่วยคำสั่งเสียง

ระหว่างนั้นเจมี่ ที่ไม่ได้รู้ตัวว่า Siri ยังรอฟังคำสั่งเสียงอยู่ ก็ตะโกนนับเลขเพื่อบอกจังหวะต่อยให้นักเรียนว่า 1-1-2 (วัน-วัน-ทู) ซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งดันไปตรงกับหมายเลขสำรองของเบอร์โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินพอดี

ภาพจาก ptjmuaythai

Siri ก็เลยโทรเบอร์ฉุกเฉินให้ พอทางฝั่งเจ้าหน้าที่รับสาย ก็ได้ยินแค่เสียงต่อยตุ้บ ๆ ตั้บ ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า ฟังดูคล้ายเสียงปืน พร้อมกับเสียงของเจมี่ ที่ตะโกนว่า ‘Good shot’ และ ‘Nice shot’ ที่ฟังแล้วเหมือนบอกว่า ‘ยิงได้ดี’ และ ‘ยิงได้สวย’ ทั้งที่จริง ๆ เขาไม่ได้หมายถึงยิงปืนแต่อย่างใด แต่กำลังชมฝีมือการเตะ การต่อย ของนักเรียนมวยไทยอยู่

เรื่องราวนี้จากที่ตึงเครียดกันอยู่ ก็เลยกลายเป็นเรื่องขำขันกันไป โดยเจมี่ก็ได้ขอโทษขอโพยเจ้าหน้าที่ไปตามระเบียบ พร้อมชื่นชมว่าเจ้าหน้าที่มากันเร็วมาก ๆ ส่วนทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ถือสาอะไร สมกับเป็นมืออาชีพกันจริง ๆ

ภาพจาก ptjmuaythai

สำหรับ Apple Wacth เป็นอุปกรณ์นาฬิกาอัจฉริยะที่มีฟีเชอร์ช่วยเหลือผู้ใช้งานมากมาย หนึ่งในนั้นคือบริการผู้ช่วยคำสั่งเสียง หรือ Siri และบริการโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน พร้อมทั้งระบุพิกัดผู้สวมใส่นาฬิกา เพื่อส่งความช่วยเหลือมาโดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้งานไม่ตอบสนองหรือไม่ยกเลิกคำสั่ง