กองทัพสหรัฐฯ เล็งเสริมเขี้ยวเล็บ จ่ออัปเกรดระบบจรวด Patriot เข้ากับฐานยิงบนเรือรบ
กองทัพสหรัฐฯ อาจใช้ระบบแพทริออต PAC-3 MSE ควบคู่กับระบบยิงจรวดแนวตั้ง Mk 41 ในเรือรบโจมตี
เดอะ วอร์ โซน (The War Zone) เว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยีอาวุธ รายงานว่า ในการประชุมประจำปีของสมาคมกองทัพเรือสหรัฐฯ มีหัวข้อหนึ่งในการประชุมกล่าวถึงการจับคู่ระบบขีปนาวุธแพทริออต (Patriot) PAC-3 หนึ่งในระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งปกติจะติดตั้งบนรถบรรทุกที่เคลื่อนที่ได้ เข้ากับแท่นยิงขีปนาวุธนำวิถีแนวดิ่งจากพื้นเรือ Mk-41 VLS (Vertical Launch System)
สำหรับระบบแพทริออต (Phased Array Tracking Radar for Intercept on Target - PATRIOT) ถูกสร้างโดยบริษัทเรย์เธียน เทคโนโลจีส์ (Raytheon Technologies) มีการประจำการเข้ากองทัพครั้งแรกช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ในปี 1991 เพื่อต่อต้านการโจมตีทางอากาศ เช่น ขีปนาวุธร่อน และขีปนาวุธทิ้งตัวแบบประสิทธิภาพต่ำ
ที่ผ่านมา มีการใช้ขีปนาวุธ 2 ประเภทในระบบแพทริออต คือ
1. ขีปนาวุธ PAC-2 ที่ถูกใช้ในอดีต ซึ่งมีหัวรบแบบแตกอากาศ (Blast and Fragmenting Warheads)
2. ขีปนาวุธ PAC-3 ซึ่งถูกใช้ในปัจจุบัน เป็นระบบแบบพุ่งชน (Hit-To-Kill)
ที่มาของรูปภาพ US Army
ด้านล็อกฮีด มาร์ติน บริษัทผู้ผลิตอาวุธจากสหรัฐฯ ระบุในเว็บไซต์ว่าระบบแพทริออต และ ขีปนาวุธ PAC-3 เป็นขีปนาวุธต่อต้านการโจมตีทางอากาศที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน ระบบการใช้งานเป็นแบบพุ่งชนด้วยพลังงานจลน์เพื่อทำลายเป้าหมาย มีพิสัยโจมตีเป้าหมายในระยะ 20-100 ไมล์ (หรือราว 32-160 กิโลเมตร) และยังมีระบบ MSE หรือระบบเสริมประสิทธิภาพของขีปนาวุธ PAC-3 ซึ่งเป็นระบบที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานของขีปนาวุธดังกล่าว จากการใช้งานแบบจุดระเบิดสองจังหวะ เพื่อเพิ่มระยะการทำงานของจรวดอีกด้วย
โดยบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ได้ใช้ระบบ MSE กับระบบป้องกันทางอากาศในกองทัพสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน โดยประยุกต์เข้ากับระบบสั่งการป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธ (IBCS) รวมทั้งระบบป้องกันพื้นที่ระยะเพดานโจมตีสูง (THAAD) อีกด้วย และปัจจุบัน มีข่าวว่า ล็อกฮีด มาร์ติน เตรียมจะติดตั้งระบบขีปนาวุธป้องกันเหล่านี้ในระบบฐานยิงแนวตั้ง Mk41 VLS (Vertical Launch Systems) ที่ใช้บนเรือโจมตีของกองทัพเรือเช่นกัน
ที่มาของรูปภาพ US Army
สำหรับระบบ Mk41 VLS หรือระบบการยิงขีปนาวุธจากแนวตั้ง เป็นลิขสิทธิ์อาวุธของล็อกฮีด มาร์ติน และการนำเอาระบบดังกล่าวมาควบรวมกับระบบแพทริออต กับจรวด PAC-3 MSE คือการมุ่งเน้นเสริมความสามารถให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งการยิงขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่อากาศ ระบบต่อต้านเรือ และโจมตีภาคพื้นดินเข้ามาไว้ในระบบเดียว
ทั้งนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับขีปนาวุธ PAC-3 ที่ใช้ในระบบแพทริออต ซึ่งมีความยาว 19 ฟุต หรือ 5.7 เมตร และการเพิ่มตัวจุดระเบิดเสริมในระบบ MSE ทำให้ตัวขีปนาวุธมีความยาวมากขึ้น ทำให้หน่วยงานกองทัพเรือที่ใช้งานขีปนาวุธ PAC-3 จะสามารถปรับแต่งตัวขีปนาวุธ และปรับรูปแบบยุทธวิธีให้เข้ากับระบบของ Mk 41 VLS ได้ จากขนาดที่ใกล้เคียงกัน
การควบรวมระบบครั้งนี้ จะเป็นการเปิดประตูสู่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ระบบขีปนาวุธ เนื่องจาก Mk41 VLS ที่ถูกดัดแปลง จะช่วยให้กองทัพสหรัฐฯ ได้ใช้งานอาวุธที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งเสริมระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เข้มแข็งขึ้นอีกด้วย ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการยิงแบบหลากหลายแท่นยิง โดยขีปนาวุธ PAC-3 MSE ที่ติดตั้งอยู่เรือสามารถช่วยกองทัพเรือสหรัฐฯ ป้องกันตัวเองได้ดีขึ้นในน่านน้ำที่มีความขัดแย้ง
ที่มาของข้อมูล interestingengineering
ที่มาของรูปภาพ US Army
