TNN online เปิดผลสอบ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง เหตุน้ำเข้าสูบออกไม่ทัน

TNN ONLINE

สังคม

เปิดผลสอบ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง เหตุน้ำเข้าสูบออกไม่ทัน

เปิดผลสอบ เรือหลวงสุโขทัย อับปาง เหตุน้ำเข้าสูบออกไม่ทัน

ผู้บัญชาการทหารเรือ เผย ผลสอบเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง 289 ปาก พบสาเหตุหลัก น้ำเข้าเรือแล้วไม่สามารถสูบออกได้ทัน ยืนยันเสื้อชูชีพเพียงพอ กับกำลังพลประจำเรือครบอัตรา ส่วนการกู้เรือคาดว่าจะใช้เงินสูงกว่า 200 ล้านบาท

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงการสอบสวนเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มี พลเรือเอกชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานและมีคณะกรรมการฯ 2 ชุด ดูว่าเหตุการณ์ที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางด้วยสาเหตุใด และเมื่อจมแล้วได้ดำเนินการตามขั้นตอนการช่วยเหลือและการค้นหาอย่างไร

ปัจจุบันผลการสอบสวนก้าวหน้าสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกำลังพลที่รอดชีวิต หน่วยงานที่เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ กำลังพล รวม 289 ปาก เสร็จเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างการเรียบเรียง ผลการสอบสวน 


ทั้งนี้ สาเหตุหลักเพราะว่าเมื่อน้ำเข้าเรือแล้วไม่สามารถสูบน้ำออกได้ทัน จนกระทั่งเรือเสียอาการ และทำให้เรือเอียง และ จมลงในที่สุด สาเหตุเหล่านี้ ต้องมาประมวลหาสาเหตุที่แท้จริง มีการตั้งสมมุติฐานหลายประเด็น แต่ผลการสอบข้อเท็จจริงจากกำลังพลที่รอดชีวิตประกอบวัตถุพยานที่ตัวเรือหลวงสุโขทัย ว่าเป็นไปตามคำให้การ และพุ่งประเด็นไปที่จุดใด ซึ่งปัจจุบันเรือหลวงสุโขทัย ยังอยู่ใต้ทะเล


โดยการกู้เรือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะจมอยู่ในน้ำลึก 40-50 เมตร ต้องพิจารณารอบคอบ หากนำขึ้นมา แล้วเกิดอุบัติเหตุทำให้เรือเสียหายเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องเฟ้นหาบริษัทที่มีขีดความสามารถนำเรือขึ้นมาได้ ยังมีขั้นตอนการพิจารณาจากบริษัทที่นำเสนอมาอยู่ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินสูงกว่า 200 ล้านบาทในการดำเนินการ

ส่วนเรื่องเสื้อชูชีพจากการตรวจสอบอัตราของเรือหลวงรัตนโกสินทร์ และเรือหลวงสุโขทัยมีอัตราที่เพียงพอ กับกำลังพลทั้งที่อยู่ในเรือ 120 – 130 ตัวซึ่ง เรือ 2 ลำ นี้เป็นเรือชุดเดียวกันอัตราเท่ากัน ได้ตรวจสอบอัตราเสื้อชูชีพจากกรมพลาธิการที่ได้ให้เรือทั้ง2 ลำแล้ว และดูการเบิกเปลี่ยนเสื้อชูชีพล่าสุดว่ามีจำนวนเท่าใด ก็ยืนยันว่ามีเสื้อชูชีพเพียงพอ กับกำลังพล 105 คนประจำเรือ



ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพิจารณาการให้สิทธิ์ช่วยเหลือเยียวยา มอบเงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิต ทั้งกองทุนน้ำใจไทย เงินประกันภัยชีวิตหมู่ เงินช่วยเหลือจากองค์การทหารผ่านศึก และเงินรับบริจาคจากคนทั่วไป

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง