TNN online เปิดประวัติ 'แฮร์รี่ แม็คไกวร์' กองหลังแมนยู ค่าตัวแพง สู่เสียงด่าจากแฟนบอล

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เปิดประวัติ 'แฮร์รี่ แม็คไกวร์' กองหลังแมนยู ค่าตัวแพง สู่เสียงด่าจากแฟนบอล

เปิดประวัติ 'แฮร์รี่ แม็คไกวร์' กองหลังแมนยู ค่าตัวแพง สู่เสียงด่าจากแฟนบอล

ตรวจโปรไฟล์ EP.11 ทีมข่าว TNNSPORTS พาไปทำความรู้จัก เช็กข้อมูลส่วนตัวของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังร่างโย่ง ค่าตัวแพงที่สุดในโลก สู่กัปตันทีมรังโอล์ด แทร็ฟฟอร์ด ที่ถูกแฟนบอลด่าเยอะที่สุดในช่วงนี้

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : เจค็อบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์

เกิด : วันที่ 5 มีนาคม 1993 (2536) 

อายุ : 29 ปี

เกิดที่ : เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ

ตำแหน่ง : กองหลัง

ส่วนสูง : 194 เซนติเมตร


เจค็อบ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (Jacob Harry Mcguire) เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1993 ที่เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ มีส่วนสูงถึง 194 เซนติเมตร โดยเขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับ ทีมเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ระหว่างปี 2011–2014 ลงเล่น 134 ทำไป 9 ประตู เขาเคยเล่นตำแหน่งกองกลางมาก่อนสมัยที่เป็นนักเตะเยาวชน ก่อนจะถูกจับมาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กตอนขึ้นทีมชุดใหญ่ ต่อมา แฮร์รี่ ย้ายมาร่วมทีม ฮัลล์ซิตี้ ระหว่างปี 2014–2017 ลงสนามไป 54 แมตช์ ยิงไป 2 ประตู ซึ่งเขาเคยถูกปล่อยให้ยืมตัวไปเล่นกับ ทีมวีแกน แอธเลติก ในฤดูกาล 2015 ผลงานลงไป 16 นัด ยิงไป 1 ประตู


ทว่าต่อมา หลังจากที่ ฮัลล์ ซิตี้ ตกชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพ ในซีซั่น 2015/16 จึงได้ดึงตัว แม็กไกวร์ กลับมาช่วยทีม แล้วเขาก็ไม่ทำให้ต้นสังกัดต้องผิดหวัง เมื่อเขากลายเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้ทันทีในฤดูกาลต่อมา หลังจบอันดับ 4 ของตาราง ก่อนจะเป็นผู้ชนะในการเล่นเพลย์ออฟ


โดยในปี 2016/17 กลายเป็นซีซั่นแรกที่เขาได้โชว์ฟอร์มในพรีเมียร์ลีกแบบเต็มที่ แม้ว่าสุดท้าย ฮัลล์ จะจบในอันดับ 18 ทำให้ต้องตกชั้นอีกครั้ง แต่ผลงานการเล่นของ แม็กไกวร์ ก็โดดเด่น จนไปเข้าตาแมวมองของ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ส่งผลให้อดีตทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ปี 2015/16 ตัดสินใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีม เมื่อช่วงซัมเมอร์ 2017 ด้วยค่าตัวราว 17 ล้านปอนด์


ซึ่งต่อมาไม่นาน แม็คไกวร์ ก็ยึดตำแหน่งกองหลังตัวจริงของทีมจิ้งจอกสีน้ำเงินได้ และมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 รวมถึงกลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่เนื้อหอม มีแต่ทีมใหญ่ต้องการตัวหลังจบฟุตบอลโลก ส่วนผลงานของเขากับทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นไป 69 แมตช์ ยิงไป 5 ประตู


ช่วงที่ แม็คไกวร์ เริ่มมีชื่อเสียงในช่วงฟุตบอลโลกปี 2018 มีกระแสหนึ่งในโลกโซเชี่ยลก็คือการแชร์ภาพเขาในปี 2016 ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงนักเตะที่ไม่มีชื่อเสียงของทีมฮัลล์ซิตี้ เขาได้เดินทางไปฝรั่งเศสกับเพื่อนๆและญาติๆในฐานะกองเชียร์ข้างสนามคนหนึ่งของทีมสิงโตคำรามอังกฤษ บ้านเกิดของเขา ใครจะเชื่อว่า เพียง 2 ปีให้หลัง แม็คไกวร์ จะโด่งดังเป็นพลุแตก และกลายมาเป็นหนึ่งในกองหลังตัวจริงของทีมชาติอังกฤษ ได้ร่วมลงเล่นในทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกอย่าง ฟุตบอลโลก ในปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย


อย่างไรก็ตาม เขายังคงอยู่กับ เลสเตอร์ ต่อไปในฤดูกาล 2018/19 และยังคงทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และพาทีมจบในอันดับ 9 อีกครั้ง จนกระทั่ง ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเขาก็มาถึง เมื่อ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 80 ล้านปอนด์ เพื่อกระชากตัวเขาเข้าสู่รั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งทำให้เขากลายเป็น กองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกทันที โดยทำลายสถิติของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ไปร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์


เปิดประวัติ 'แฮร์รี่ แม็คไกวร์' กองหลังแมนยู ค่าตัวแพง สู่เสียงด่าจากแฟนบอล

ที่มาภาพ : AFP


โดย แม็กไกวร์ ได้กลายเป็นปราการหลังคนสำคัญใน โรงละครแห่งความฝัน ทันที แม้จะมีข้อผิดพลาดบ้างในบ้างครั้ง แต่โดยรวมแล้วถือว่า เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และกลายเป็นกองหลังที่ไว้ใจได้มากที่สุดของทีม อีกทั้งด้วย บุคลิก ความเป็นผู้นำของเขา ยังทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ให้รับปลอกแขนทำหน้าที่เป็น กัปตันทีม ของแมนยู ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายไปร่วมทีมเลยด้วย


ซึ่งสุดท้ายแล้ว ฤดูกาล 2019/20 ก็กลายเป็นอีกซีซั่นที่ แม็กไกวร์ ลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกครบทุกนัด และครบทุกนาที พร้อมช่วยให้ ปีศาจแดง จบในอันดับ 3 ของตารางได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หากเทียบกับฟอร์มในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกของพวกเขาที่ทำได้ไม่ดีเอาเสียเลย


กระทั่งในซีซั่น 2020/21 แม็กไกวร์ ยังคงเดินหน้าทำผลงาน และช่วยต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม จนล่าสุด เขาสามารถพาทีมไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนได้สำเร็จ หลังจบเกมนัดที่ 17 ของฤดูกาล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในชีวิตของ กองหลังชาวอังกฤษ ที่ได้สัมผัสกับการเป็นผู้นำในลีกสูงสุดของอังกฤษด้วย


แต่ทว่าในปี 2021/22 ผลงานของทีมเริ่มไม่ค่อยสู้ดีนักจนทำให้ กุนซือของทีมอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดนปลดจากตำแหน่ง และสโมสรก็ได้แต่งตั้ง ราล์ฟ รังนิก เข้ามาทำหน้าที่แทน ผลงานของ แม็คไกวร์ ก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลถึงฟอร์มการเล่นของเขา จนทำให้ รังนิก ต้องตัดสินใจดร็อปนักเตะในบางเกม เนื่องจากโชว์ผลงานได้อย่างไม่น่าพอใจกับค่าตัวระดับนี้ แถมยังถูกมองว่าไม่เหมาะสมที่ต้องมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมของปีศาจแดง


เปิดประวัติ 'แฮร์รี่ แม็คไกวร์' กองหลังแมนยู ค่าตัวแพง สู่เสียงด่าจากแฟนบอล

ที่มาภาพ : AFP


อย่างไรก็ตาม ถ้าหากกัปตันทีมวัย 29 ปี รายนี้ยังไม่รับฟังคำแนะนำของบรรดาตำนานหลายๆ คนที่ส่งข้อความถึงเขา และยังไม่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่น รวมไปถึงทัศนคติ ก็ยากเหลือเกินที่จะได้ใจแฟนบอลของยูไนเต็ดกลับมา ฟิล โจนส์ กองหลังที่ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมายาวนานเป็นปี ล่าสุด ลงเล่นเพียงนัดเดียว ถูกชมมากกว่าการที่ แม็คไกวร์ ลงเล่นมาตลอดทั้งปี เรื่องของการทุ่มเท ทั้งกายและใจ ต้องทุ่มเกินร้อย ถ้าหาก แม็คไกวร์ ต้องการเป็นที่รักของแฟนบอลในรังโอล์ด แทร็ฟฟอร์ด


เกียรติประวัติ รางวัลส่วนตัว 

นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1 สมัย : 2011/12

นักเตะยอดเยี่ยมของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3 สมัย : 2011/12, 2012/13, 2013/14

นักเตะยอดเยี่ยมของ ฮัลล์ ซิตี้ จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีม 1 สมัย : 2016/17

นักเตะยอดเยี่ยมของ ฮัลล์ ซิตี้ จากการโหวตของแฟนบอล 1 สมัย : 2016/17

นักเตะยอดเยี่ยมของ เลสเตอร์ ซิตี้ 1 สมัย : 2017/18

นักเตะยอดเยี่ยมของ เลสเตอร์ ซิตี้ จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีม 1 สมัย : 2017/18

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง