TNN online ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับ เตียงผู้ป่วยโควิด-19 ไม่พอ จ่อขยาย Hospitel

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับ เตียงผู้ป่วยโควิด-19 ไม่พอ จ่อขยาย Hospitel

ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับ เตียงผู้ป่วยโควิด-19 ไม่พอ จ่อขยาย Hospitel

ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับ เตียงรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มีไม่เพียงพอ เนื่องจากติดเชื้อกันจำนวนมาก ภายในสัปดาห์นี้จะเปิด Hospitel เพิ่ม ขยายเตียงรองรับผู้ป่วย เร่งฉีดวัคซีนเชิงรุกคุมระบาดกลุ่มคลัสเตอร์

วันนี้ (22 มิ.ย.64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมหน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุก โรงเรียนบางเขน (ไว้สาลีอนุสรณ์) เขตหลักสี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยบริการฉีดวัคซีน เคลื่อนที่เพื่อแก้ไขปัญหาการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน หรือ คลัสเตอร์

พล.ต.อ.อัศวิน ระบุถึงการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกหลายคลัสเตอร์ ว่า กรุงเทพมหานครพยายามเข้มงวดกับมาตรการเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสอบสวนโรคและค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรักษา รวมถึงเร่งฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ลดความเสี่ยง ไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนเพิ่มสูงไปมากกว่านี้

ล่าสุด กรุงเทพมหานคร ร่วมกับทาง ศบค.วางแนวทางป้องกัน พร้อมประสานไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย ให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาช่วยควบคุมพื้นที่-ที่ระบาดแบบคลัสเตอร์ พร้อมยอมรับว่าตอนนี้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของเชื้อได้ เพราะกรุงเทพมหานครมีประชากรหนาแน่น ทำให้ควบคุมยากแต่ก็จะพยายามควบคุมให้ได้

ส่วนปัญหาเรื่องเตียงสำหรับดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า เตรียมจะขยาย Hospitel เพื่อเพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วยภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเตียงที่กรุงเทพมหานครมีอยู่แทบจะไม่เพียงพอแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของผู้ป่วยสีแดง หรือ อาการรุนแรงก็เกิดภาวะผู้ป่วยล้นเตียง จึงต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขให้ทันต่อสถานการณ์

ด้าน พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ระบุว่า การระบาดของเชื้อโควิด-19 แบบเป็นกลุ่มก้อนในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ทำให้สำนักอนามัย ต้องกำหนดแผนจัดหน่วยบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่การแพร่ระบาด เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อขยายวงกว้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะพบระบาดแบบคลัสเตอร์ตามแหล่งแออัด เช่น สถานที่ก่อสร้าง โรงงาน ตลาด รวมถึงชุมชน

และนอกจากเร่งฉีดวัคซีนพื้นที่กลุ่มเสี่ยงแล้ว ยังประสานกับเจ้าของสถานประกอบการโรงงาน แคมป์คนงานก่อสร้าง ผู้นำชุมชน ที่เกิดการระบาดแบบคลัสเตอร์ เพื่อขอความร่วมมือห้ามทุกคนเดินทางออกนอกพื้นที่เด็ดขาด คือ ใช้มาตรการ Bubble and Seal พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่สำนักอนามัยเข้าไปตรวจหาเชื้อเชิงรุก และดูแลเรื่องสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่การระบาดแบบคลัสเตอร์ด้วย

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง