TNN online ผลศึกษาชี้ ผมร่วง-ความผิดปกติทางเพศ ผลกระทบจากอาการลองโควิด

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

ผลศึกษาชี้ ผมร่วง-ความผิดปกติทางเพศ ผลกระทบจากอาการลองโควิด

ผลศึกษาชี้ ผมร่วง-ความผิดปกติทางเพศ ผลกระทบจากอาการลองโควิด

สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร ระบุ ประชาชน 2 ล้านคนในประเทศ ถูกประมาณการว่า ได้รับผลกระทบจากอาการ "ลองโควิด" (Long Covid)


นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุถึงผลการศึกษา อาการ Long COVID พบมากถึง 62 อาการ ซึ่งเผยแพร่โดยทีมวิจัยจากสหราชอาณาจักร เผยแพร่ในวารสารการแพทย์เนเจอร์ ซึ่งที่ผ่านมาเราทราบกันดีเรื่องความผิดปกติของทางเดินหายใจ หัวใจและหลอดเลือด ตลอดจนอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า

การวิจัยนี้ยังชี้ให้เห็นว่า การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้นทำให้มีความเสี่ยงต่อเรื่องผมร่วง (hair loss) มากกว่าไม่ติดเชื้อถึง 4 เท่า นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการมีปัญหาด้านระบบสืบพันธุ์หลากหลายอาการ ได้แก่ เพศหญิงจะมีความเสี่ยงที่จะเจอปัญหาประจำเดือนมามากกว่าปกติ และสิ่งคัดหลั่งจากช่องคลอดออกมาผิดปกติ

แต่เพศชายนั้นดูจะน่ากังวล เพราะเสี่ยงต่อ ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือนกเขาไม่ขัน มากขึ้น 1.26 เท่า หลั่งอสุจิยากขึ้น 2.63 เท่า และความต้องการทางเพศลดลง 2.36 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ติดเชื้อ ดังนั้น การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด

ผลการศึกษาฉบับใหม่ที่ คาดว่า ในสหราชอาณาจักร ผู้มีอาการลองโควิดถึง 2 ล้านคน โดยอัตราการเป็นลองโควิด อยู่ในกลุ่มผู้หญิงมากที่สุด อายุระหว่าง 35 ถึง 69 ปี และความอ่อนเพลียเหนื่อยล้า ยังคงเป็นอาการที่ปรากฏมากที่สุด ถึงร้อยละ 55 สำหรับผู้เป็นลองโควิด รองลงมาเป็นอาการหายใจได้ไม่เต็มที่ ร้อยละ 32 ส่วนร้อยละ 23 มีอาการไอ และร้อยละ 23 ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

ผลศึกษาชี้ ผมร่วง-ความผิดปกติทางเพศ ผลกระทบจากอาการลองโควิด

ไวรัสโควิด สามารถ “เจาะอุโมงค์” ผ่านจมูก เข้าสู่สมอง  

นอกจากนี้ ยังมีผลวิจัยจากสถาบันปาสเตอร์ ของฝรั่งเศส ตีพิมพ์ผลการค้นพบล่าสุดในวารสาร Science Advances โดยระบุว่าไวรัสโควิดที่เข้าสู่เซลล์เนื้อเยื่อภายในจมูก  สามารถ กระตุ้นให้เกิดการสร้างท่อขนาดเล็กระดับนาโน เชื่อมต่อระหว่างเซลล์เนื้อเยื่อจมูกและเซลล์สมองได้แล้ว ซึ่งไวรัสโควิดจะใช้ช่องทางนี้เป็น "อุโมงค์" เพื่อเดินทางผ่านเข้าสู่สมอง  

การค้นพบนี้ช่วยอธิบายสาเหตุของภาวะสมองล้า (brain fog) ซึ่งเป็นความผิดปกติในการใช้ความคิดและความทรงจำหลังล้มป่วยด้วยโรคโควิด-19 ทั้งที่เซลล์สมองนั้นไม่น่าจะติดเชื้อไวรัสโควิดได้เหมือนกับอวัยวะอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวัยวะในระบบทางเดินหายใจเช่นปาก จมูก และปอด ซึ่งเต็มไปด้วยตัวรับ ACE2 ที่ไวรัสชื่นชอบ แต่เซลล์สมองแทบจะไม่มีตัวรับ ACE2 ที่ไวรัสใช้ผ่านเข้าสู่เซลล์ร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการทดสอบยืนยันกระบวนการดังกล่าวในร่างกายของมนุษย์อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าการติดเชื้อโควิดในสมองมาจากกระบวนการนี้จริง ซึ่งหากได้รับการยืนยันแล้ว นักวิทยาศาสตร์จะสามารถคิดค้นยาหรือโมเลกุลที่ระงับการสร้างอุโมงค์เชื่อมต่อเซลล์ดังกล่าว เพื่อสกัดการเข้าสู่สมองของไวรัสโควิดได้ต่อไป

ผลศึกษาชี้ ผมร่วง-ความผิดปกติทางเพศ ผลกระทบจากอาการลองโควิด

ผู้ป่วยโควิดในรพ.ออสเตรเลีย พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ด้าน นักวิจัยในออสเตรเลียระบุว่า  ขณะนี้ คาดว่า ชาวออสเตรเลียราว 4.5 แสนคนกำลังเผชิญกับภาวะ Long Covid ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการเหนื่อยง่าย หายใจถี่ ภาวะสมองล้า (Brain Fog) รวมถึงมีความผิดปรกติในการรับกลิ่นและรส

ซึ่งออสเตรเลีย พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ 5,433 ราย ณ วันจันทร์ (25 ก.ค.) เพิ่มขึ้นจาก 5,001 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้ รพ.หลายแห่งกำลังเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น จากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในรพ. เพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่ากับระลอกในเดือน ม.ค. 65 ที่ระดับ 5,390 ราย ทำให้ต้องมีการส่งนักเรียนแพทย์ พยาบาล เพื่อสนับสนุนการทำงานในโรงพยาบาล

ในวันนี้ (26 ก.ค.) ทางการออสเตรเลียรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่มากกว่า 40,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 90 ราย


ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง