"เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน" รุกตลาดหลังคาโซลาร์ ผนึก 3 กลุ่มพาร์ทเนอร์
“เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน” ชูภาพลักษณ์ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีหลังคาโซลาร์ของประเทศไทย สร้างฐานตลาดด้วยกลยุทธ์ Partnership Integration
“เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน” ชูภาพลักษณ์ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีหลังคาโซลาร์ของประเทศไทย สร้างฐานตลาดด้วยกลยุทธ์ Partnership Integration ผสานความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของบริษัทกับจุดแข็งของ 3 กลุ่มพาร์ทเนอร์ศักยภาพ ย้ำความมั่นใจด้านคุณภาพ สร้างโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น และสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ร่วมกับบริษัทชั้นนำระดับโลก ทั้ง Huawei และ Enphase ยกระดับนวัตกรรมหลังคาโซลาร์ ด้านไฟแนนซ์ ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำของไทย จัดทำข้อเสนอพิเศษเพื่อการเป็นเจ้าของที่ง่ายขึ้น และหน่วยงานภาครัฐ โดยได้ร่วมมือการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขออนุญาตให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เอสซีจี และเหล่าพาร์ทเนอร์ นำเสนอโซลูชันใหม่ "SCG Solar Roof" ระบบ Hybrid ตอบสนองเทรนด์ความต้องการลดค่าไฟของคนยุคปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ไฟฟ้าจากระบบโซลาร์ได้ทั้งวันทั้งคืน พร้อมเดินเกมรุกขยายตลาดเจาะกลุ่ม Residential Solar Market เพิ่มขึ้น 300%
จากบทสัมภาษณ์ของคุณนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี, ร่วมกับ คุณธงชัย โสภณ Head of Housing Products Business บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด พูดเกี่ยวกับ “เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน” ไว้ดังนี้
- “เอสซีจี” มุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยี เพื่อพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชัน ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของลูกค้า ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- ทางบริษัทได้นำแนวทางเรื่องมาตรฐานการดำเนินธุรกิจระดับโลก อย่าง ESG (Environmental, Social and Governance) เป็นกรอบการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันใหม่ๆ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs (Sustainable Development Goals) ของสหประชาชาติ เพื่่อสร้างสรรค์โซลูชันและคุณภาพชีวิตที่ดีในปัจจุบัน และส่งต่อโลกที่ดียิ่งขึ้นให้คนรุ่นต่อไป
- ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายองค์กรต่างเลือกใช้การทำงานแบบไฮบริด หรือเน้นการทำงานแบบ Work from Home มากขึ้น แน่นอนว่าส่งผลโดยตรงกับการเพิ่มปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและไลฟ์สไตล์ หรือหาโซลูชันเพื่อลดค่าใช้จ่ายและประหยัดการใช้พลังงาน
- ด้วยความที่ "เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน" อยู่ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมระบบหลังคาโซลาร์ สำหรับกลุ่มงานบ้านและที่อยู่อาศัย ทำให้ทางบริษัทมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีและผนึกความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ “Partnership Integration” เพื่อสะท้อนภาพผู้นำผ่านการนำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับการสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่การเป็นโซลูชันพลังงานสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูง
- ทางบริษัทร่วมมือกับ 3 กลุ่มพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของระบบหลังคาโซลาร์ในประเทศไทยขึ้นไปอีกระดับ ด้านเทคโนโลยี ได้ร่วมมือกับ หัวเว่ย (Huawei) เพื่อนำที่สุดของนวัตกรรมแบตเตอรี่มาเพิ่มความสามารถในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ในช่วงเวลากลางคืน และร่วมมือกับ เอนเฟส เอ็นเนอร์จี้ (Enphase Energy) ผู้นำด้านเทคโนโลยีไมโครอินเวอร์เตอร์ (Microinverter) สหรัฐอเมริกา ร่วมนำเอาเทคโนโลยีไมโครอินเวอร์เตอร์ มาช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบโซลาร์ให้ดียิ่งขึ้น
- ด้านไฟแนนซ์ ได้ร่วมมือกับ สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกและความคุ้มค่าด้านต่างๆ ให้กับลูกค้า เพื่อเปิดรับประสบการณ์ที่เหนือชั้น และเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการดำเนินการขออนุญาตให้รวดเร็วมากขึ้น
- "เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน” แบ่งเป็นกลุ่ม B2B (SME) 70% และ B2C 30% ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำด้าน Residential Solar Market อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายเพื่อตอบความต้องการของลูกค้า โดยนำเสนอโซลูชันใหม่ “SCG Solar Roof ระบบ Hybrid” ทางเลือกใหม่ที่มาตอบโจทย์เจ้าของบ้านและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน
- เพื่อมองหาวิธีการใช้พลังงานไฟฟ้าให้คุ้มค่าทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน รวมถึงให้ความสนใจในเรื่องของพลังงานสะอาดมากขึ้น โดย “SCG Solar Roof ระบบ Hybrid” เป็นการผสานข้อดีของระบบ On grid ที่ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในช่วงเวลากลางวัน ผสานเข้ากับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่จะกักเก็บไฟฟ้าเพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้ในช่วงเวลากลางคืน ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้ฟรีๆ ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน และสามารถเป็นระบบไฟฉุกเฉินสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญของบ้านได้
- เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการตัดสินใจด้านความคุ้มค่า ทางบริษัทได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ ของประเทศไทย จัดทำข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้สนใจ “SCG Solar Roof ระบบ Hybrid” อาทิ ธนาคารกสิกรไทย มอบโปรโมชันแพ็กเกจพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ได้แก่ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ และดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก รวมถึงส่วนลดพิเศษสูงสุด 70,000 บาท และ Tops E-voucher 2,000 บาท
- ยังมีหลากหลายแพ็กเกจให้เลือกจากสถาบันการเงินอื่นๆ อาทิ UOB, TISCO เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการติดตั้ง SCG Solar Roof ในพื้นที่ต่างๆ ผ่านความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในพื้นที่ต่างๆ
- บริษัทฯ ยังมีการให้บริการการติดตั้ง ดูแลครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา การออกแบบโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และติดตั้งอย่างมืออาชีพ พร้อมบริการหลังการขาย “ไร้กังวล” มีการตรวจสอบสภาพความพร้อมของหลังคาก่อนการติดตั้ง (Roof Health Check) เพื่อให้มั่นใจว่าหลังคาพร้อมติดตั้งโซลาร์รูฟ
- ทางบริษัทไม่ได้เจาะหลังคาด้วยนวัตกรรม Solar FIX ไม่เสี่ยงรั่ว สิทธิบัตรเฉพาะเอสซีจีเท่านั้น “สินค้าคุณภาพ” แผงโซลาร์ Tier 1 รับประกันตัวแผงโซลาร์ และประสิทธิภาพการผลิตไฟนาน 25 ปี ในส่วนของอินเวอร์เตอร์ (ระบบแปลงไฟ) รับประกัน 10 ปี “สะดวก” ดำเนินการขออนุญาตติดตั้งโซลาร์ให้ทั้งกระบวนการ และสามารถติดตามการผลิตไฟและค่าไฟที่ประหยัดได้แบบ Real Time ผ่านทางแอปฯ “บริการหลังการขาย” ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน พร้อมอยู่ดูแลและเคียงข้างไปตลอดระยะเวลารับประกัน 25 ปี“
ด้วยความมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชันให้กับกลุ่มลูกค้า จะสามารถผลักดันให้ ‘เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน’ เติบโตด้วยยอดขายมากขึ้น 300% โดยเราเชื่อมั่นว่า SCG Solar Roof ระบบ Hybrid จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นและจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยและสามารถเพิ่มยอดขายในกลุ่มหลังคาโซลาร์ หรือคิดสัดส่วนที่ 20% ของกลุ่มบ้านพักอาศัย
ข่าวแนะนำ
-
จีนทดลองวิ่งรถบรรทุกไร้คนขับ
- 08:11 น.
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67