
ชาวเกาะซานโตรินีหลายร้อยคนขึ้นเรือข้ามฟากไปยังกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของประเทศกรีซ ในช่วงเช้ามืดวันนี้ (4 กุมภาพันธ์) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวขึ้นครั้งแรกในทะเลอีเจียน บริเวณน่านน้ำที่อยู่ระหว่างเกาะซานโตรินี ซึ่งเป็นเกาะภูเขาไฟกับเกาะอามอร์กอส ทำให้ทางการท้องถิ่นต้องคำสั่งปิดโรงเรียนบนเกาะซานโตรินีและเกาะใกล้เคียงไปจนถึงวันศุกร์นี้
แต่หลังจากแผ่นดินไหวครั้งแรก ยังคงเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันจันทร์ (3 กุมพาพันธ์) วัดแรงสั่นสะเทือนที่บางครั้งมีขนาดมากกว่า 4 ได้เกือบทุกๆ 3-4 นาที ทางการท้องถิ่นขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ปิดและท่าเรือขนาดเล็ก และมีการส่งทีมรับมือภัยพิบัติลงพื้นที่เพื่อเตรียมการรับมือแล้ว
รายงานพบว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด มีขนาด 5.1 เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สภาพเช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อไปอีกหลายสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวกว่า 200 ครั้งนี้ เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อย และยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ
ทั้งนี้ เกาะซานโตรินี ซึ่งเป็นเกาะในฝันของใครหลาย ๆ คน และเป็นสถานที่ถ่ายรูปวิวสวยงามนั้น เป็นเกาะที่ตั้งอยู่บนภูเขาไฟ ซึ่งเคยปะทุใหญ่เมื่อ 1620 ปีก่อนคริสตกาล แต่มอดลงไปแล้ว ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญที่ตั้งขึ้นเพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าวระบุว่า แผ่นดินไหวทั้ง 200 กว่าครั้งนี้ "ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของภูเขาไฟ" แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยพบว่า ภูเขาไฟซานโตรินี มีการระเบิดใหญ่ ในทุก ๆ 20,000 ปี ซึ่งนักธรณีวิทยาและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญต่างเฝ้าจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

สรุปข่าว