
รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมดเมื่อวานนี้รวมถึงความช่วยเหลือยูเครนด้วย แต่ยกเว้นเพียงความช่วยเหลือทางการทหารต่ออิสราเอลและอียิปต์ และความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านอาหารที่บริจาคให้แก่ประเทศที่ประสบวิกฤติทั่วโลก
คาดว่าการระงับความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ ให้แก่ต่างประเทศจะส่งผลกระทบต่อทุกอย่างตั้งแต่การให้ความช่วยเหลือทางด้านการพัฒนา การต่อต้านโรคเอดส์ ไปจนถึงความช่วยเหลือทางการทหารซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือทางการทหารที่ให้แก่ยูเครน หลังยูเครนได้รับอาวุธจากสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลชุดก่อนของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนไปแล้วหลายหมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อใช้สู้รบกับรัสเซีย
แต่ยกเว้นความช่วยเหลือทางทหารที่สหรัฐฯ ให้แก่อิสราเอลและอียิปต์ และความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านอาหารที่สหรัฐฯ ได้บริจาคให้แก่ประเทศประสบวิกฤติทั่วโลก รวมถึงซีเรียและซูดาน

สรุปข่าว
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ให้ความช่วยเหลือต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในโลกมายาวนาน ข้อมูลจากเอเอฟพีระบุ สหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือต่างประเทศในด้านการพัฒนามากกว่า 64,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 คิดเป็นเงินไทยกว่า 2 ล้าน 1 แสนล้านบาท
รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ สั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศนี้ ในวันที่ 5 หลังเพิ่งเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (20) เอเอฟพีรายงานอ้างบันทึกช่วยจำภายในของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า "มาร์โก รูบิโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ ได้ออกคำสั่ง "หยุดทำงาน" (stop-work) สำหรับความช่วยเหลือต่างประเทศที่มีอยู่ทุกอย่าง รวมทั้งระงับความช่วยเหลือก้อนใหม่ด้วย คำสั่งนี้มีผลทันที และจะเปลี่ยนแปลงเป็นอื่นใดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับรูบิโอตัดสินใจ หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศเสร็จสิ้นการทบทวนตรวจสอบความช่วยเหลือทั้งหมดที่สหรัฐฯ ให้แก่ต่างประเทศแล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทบทวนนาน 85 วัน หรือเกือบ 3 เดือน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ นี้ เป็นไปตามนโยบาย "อเมริกาก่อน" ของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่รวมถึงการจำกัดความช่วยเหลือที่ให้แก่ต่างประเทศอย่างเข้มงวดด้วย.