

สรุปข่าว
ไม่กี่วันหลังฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ ถนนหลวงในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี หลายสาย ยังจมอยู่ใต้น้ำเมื่อวานนี้ (19 เมษายน) โดยมีรถยนต์หลายคนจมอยู่ในน้ำและผู้คนต้องเดินลุยน้ำลึกระดับเอว
รถบรรทุกบำบัดน้ำเสีย กระจัดกระจายอยู่ทั่วดูไบ เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
พายุลูกนี้ ซึ่งถล่มโอมาน ประเทศเพื่อนบ้านก่อนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พัดเข้ายูเออีในวันอังคาร ทำให้น้ำท่วมถนนและการจราจรติดขัดอย่างหนักนานหลายชั่วโมง บ้านเรือนและธุรกิจถูกน้ำท่วมสูง มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 4 คนในยูเออี และ 20 คนในโอมาน
ปกติแล้ว ฝนไม่ค่อยตกมากนักในยูเออี และประเทศอื่น ๆ ในคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งโดยทั่วไปขึ้นชื่อเรื่องสภาพอากาศแห้งแล้งแบบทะเลทราย อุณหภูมิของอากาศในฤดูร้อน สามารถพุ่งสูงเกิน 50 องศาเซลเซียส
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ เปิดเผยว่า อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศฝีมือมนุษย์ กำลังก่อให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วมากขึ้นทั่วโลก เช่นพายุที่ถล่มยูเออีและโอมาน
นักวิจัย คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อน จะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น, ความชื้นสูงขึ้น และมีความเสี่ยงน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียมากขึ้น ปัญหานี้อาจเลวร้ายในหลายประเทศ เช่นยูเออี ซึ่งไม่มีระบบโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการระบายน้ำ ในการรับมือกับฝนตกหนัก
สำนักข่าวของยูเออี รายงานในวันพุธที่ผ่านมา เผยแพร่แถลงการณ์จากประธานาธิบดีชี้ค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยาน ของยูเออี ที่ระบุว่า เขาได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ประเมินความเสียหายและให้การสนับสนุนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากพายุแล้ว
—————
ภาพ: Reuters
ที่มาข้อมูล : -