World-in-depth: แตกต่างไม่แตกแยก ผลประโยชน์ทางการเมือง “สองระดับ” ของอิสราเอล

World-in-depth: แตกต่างไม่แตกแยก ผลประโยชน์ทางการเมือง “สองระดับ” ของอิสราเอล

สรุปข่าว

อย่างที่ทราบกันดีว่า บรรดาประชาชนอิสราเอล ส่วนใหญ่ไม่ค่อยที่จะอภิรมย์กับการปกครองของ เบนจามิน เนทันยาฮู เสียเท่าไรนัก เห็นได้ชัดจากการ “หยั่งเสียง” พบว่า “บีบี้” ผู้นี้ มีคะแนนนิยมน้อยกว่าพรรคฝ่ายค้านเสียอีก


กระนั้น หากเป็นในเรื่องของ “ความอยู่รอดของรัฐชาติ” บรรดา “สายเลือดแห่งยิว” กลับเงียบกริ๊บ มีจำนวนน้อยจริง ๆ ที่จะออกมาเดินขบวน “เพื่อสันติภาพ” และส่วนใหญ่จะปล่อยให้บีบี้กระทำการไป แม้สงครามนั้นจะดุเดือด และคร่าชีวิตไปมากมายเพียงไรก็ตาม


ตรงนี้ หากพิจารณาเพียงผิวเผิน จะถือว่า “ผิดวิสัย” อย่างมากมายเลยทีเดียว


เกิดอะไรขึ้น? ลองวิเคราะห์ผ่าน “การตัดสินใจทางการเมือง” ของผู้คนอิสราเอล อาจพบความหมาย



--- ผมมีสองระดับ ดับเบิ้ลระดับ --- 


ในโลกทางรัฐศาสตร์นั้น เป็นอะไรที่ซับซ้อนอย่างมาก หากจะทำการ “เหมารวม” เรื่องของการติดสินใจทางการเมืองของผู้คนในสังคมใดสังคมหนึ่ง ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้เกิด “การคาดคะเน” ได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง “สร้างคำอธิบาย” ผ่านอะไรบางอย่าง


ซึ่งแน่นอน โดยส่วนมากในการตัดสินใจดังกล่าวนั้น มักจะเป็นไปด้วย “สองระดับ” เสมอ นั่นคือ ตัดสินใจในระดับประเทศ ซึ่งหมายถึง การตัดสินใจที่มีต่อผู้นำ และตัดสินใจในระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หมายถึง การตัดสินใจโดยเพิ่มเงื่อนไขนโยบายของประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะ มหาอำนาจ ที่มีผลกระทบต่อประเทศของตน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อาทิ การประกาศ “ลอยตัวเงินดอลลาร์สหรัฐ” ก็นับว่าเข้าข่ายไป


เมื่อนำคำอธิบายนี้ไปพิจารณาอิสราเอล จะพบว่า ในการตัดสินใจภายในประเทศนั้น ผู้คนอิสราเอลไม่ค่อยชอบใจ นั่นเพราะ บีบี้ได้กระทำการที่ “กระทบประชาชน” มากจนเกินไป 


ที่ใกล้ตนที่สุด คือการที่บีบี้เข้ามายุ่มย่ามเรื่อง “สิทธิและเสรีภาพ” ของประชาชน การแบนสื่อ การคุมอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ หรือกระทั่ง การบังคับเกณฑ์ทหาร ที่จะไปรบในสงครามกับฮามาส


แน่นอน เรื่องแบบนี้ ผู้คนในสังคมไหน ๆ ก็ไม่มีทางอภิรมย์ เพราะขัดกับหลักการดำเนินชีวิตโดยเสรีทั้งสิ้น


แต่ในทางตรงกันข้าม การตัดสินใจบนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของผู้คนนั้น “คนละแบบกัน” เพราะฐานคิดต้องวางอยู่บน “ความอยู่รอดของรัฐชาติ” เป็นที่ตั้ง รัฐไม่รอด พวกเราจะรอดอย่างนั้นหรือ 


ดังนั้น เราจึงเห็นแรงสนับสนุนที่ไม่ขาดสายในการที่จะทำให้อิสราเอลประสบชัยชนะในครั้งนี้


เพราะอย่าลืมว่า “ชาวยิว” เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีปมเรื่อง “การยอมรับ” มาตั้งแต่ครั้งอดีต ตั้งแต่ยังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ อยู่กับอาณาจักรใด มักเป็นที่รังเกียจเสมอ 


การที่จะอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ได้นั้น จึงจำเป็นต้อง “Isolated” อยู่ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องมาหวังพึ่งใคร บีบี้ จึงต้องได้รับการสนับสนุน “ให้เข้มแข็ง” 


และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ที่ชาวอิสราเอลไม่ค่อยอภิรมย์กับ “ความช่วยเหลือของนานาประเทศ” โดยเฉพาะ สหรัฐอเมริกา เพราะเหมือนกับว่า ชาวยิวจะต้อง “เสียเกียรติ” ไปยืมจมูกมหาอำนาจหายใจ


เพราะความกลัวนั้น ยังคงสถิตย์ ณ จิตใจของชาวยิวมาตั้งแต่บางบรรพ์ ถึงขนาดตอนนี้ พวกเขาก็ยังมองต่างชาติว่าเป็น “พวกเกลียดยิว” อยู่ร่ำไป



--- การเมืองนั้นยากกว่าฟิสิกส์ --- 


เราไม่อาจปฏิเสธความจริงอย่างหนึ่งได้ว่า “การเมืองนั้นยากกว่าฟิสิกส์” อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ การันตี 


นั่นเพราะ การเมืองนั้นเป็นเรื่องของ “Social Construct” ที่อาศัย “จัดวางความสัมพันธ์” ของระดับที่แตกต่างกันของผสกนิกรทุกหมู่เหล่า ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างเชื่องเชื่อ 


ดังนั้น ความซับซ้อนในการทำความเข้าใจจึงมีมากไปตาม ๆ กัน 


บางที สิ่งที่เราเห็นว่า “ขัดกัน” ในการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งของมนุษย์ อาจไม่ได้หมายความว่า เขาผู้นั้นเป็นพวก “ตรรกะวิบัติ” แต่อย่างใด


อาทิ หากเราเห็นว่า ตอนเช้า เขาผู้หนึ่งเข้าวัดฟังธรรม แต่ตกเย็น เขากลับรับงานเอ็นเตอร์เทนลูกค้า ตรงนี้ อาจหมายความได้ว่า มีการตัดสินใจสองระดับ ทั้ง “โลกุตรวิสัย” และ “โลกียวิสัย”


กระนั้น ตรงนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า การตัดสินใจที่ดูขัดกัน “ทั้งหมด” จะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ผ่านการสร้างคำอธิบาย


อย่างการที่ต้องการ “รัฐสวัสดิการ” ควบคู่ไปกับ “การกระจายอำนาจท้องถิ่น” แบบนี้เรียก “ไม่เข้าใจหลักการทางรัฐศาสตร์” เป็นที่ตั้ง

—————

แปล-เรียบเรียง: วิศรุต หล่าสกุล

ภาพ: Reuters


ข้อมูลอ้างอิง:

บทความ The Poliheuristic Theory of Political Decision-Making

1, 23

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ

world in depth
อิสราเอล
เนทันยาฮู
ชาวอิสราเอล
ยิว
การเมือง
การปกครอง
ฉนวนกาซา