“จุลพันธ์“ เผยที่ประชุมธนาคารพัฒนาเอเชียยังเชื่อมั่นไทย ชี้จีดีพีตกทั่วโลก-เหตุเศรษฐกิจผันผวน / สัปดาห์หน้าคลังเรียกถกกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการเข้าร่วมประชุมประจำปีครั้งที่ 58 ของคณะกรรมการธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เมื่อวันที่ 5 พฤษาคม 2568 ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ที่ผ่านมาว่า ทุกประเทศที่อยู่ในกรอบความร่วมมือทั้งหมด ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย และเน้นย้ำในการเพิ่มความสัมพันธ์ให้มากขึ้นโดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดการค้ามีความผันผวน ความสัมพันธ์และการพูดคุยกันพูดคุยเจรจากันระหว่างประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญ และได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศแบบกลุ่มจากหลายประเทศ ทุกคนยังให้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีโอกาสดึงเม็ดเงินมาลงทุนได้ จึงต้องทำให้เกิดความร่วมมือขึ้น โดยต้องยื่นมือเข้าไปช่วยประเทศที่จะเข้ามาด้วย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ต้องร่วมมือทำงานเก็บข้อมูลต่างๆไว้ให้พร้อม
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงกรณีการคาดการณ์จีดีพีของภูมิภาคอาเซียน จากทาง ADB ว่าจะเป็นอย่างไร จะตกต่ำลงหรือไม่ โดยระบุว่า เรื่องนี้ได้คุยกันในภาพรวม และรับทราบฐานข้อมูลของ ADB ที่ได้นำเสนอในที่ประชุมแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของเอเชีย และทั้งโลกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำลงแน่นอน ไม่ใช่แค่ประเทศไทย โดยมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน แม้จะไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนในส่วนของประเทศไทย แต่เราได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการชัดเจนให้ทบทวนกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำการบ้านมากขึ้นเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของประชาชน
สรุปข่าว
“จุลพันธ์“ เผยที่ประชุมธนาคารพัฒนาเอเชียยังเชื่อมั่นไทย ชี้จีดีพีตกทั่วโลก-เหตุเศรษฐกิจผันผวน / สัปดาห์หน้าคลังเรียกถกกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการเข้าร่วมประชุมประจำปีครั้งที่ 58 ของคณะกรรมการธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เมื่อวันที่ 5 พฤษาคม 2568 ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ที่ผ่านมาว่า ทุกประเทศที่อยู่ในกรอบความร่วมมือทั้งหมด ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย และเน้นย้ำในการเพิ่มความสัมพันธ์ให้มากขึ้นโดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดการค้ามีความผันผวน ความสัมพันธ์และการพูดคุยกันพูดคุยเจรจากันระหว่างประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญ และได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศแบบกลุ่มจากหลายประเทศ ทุกคนยังให้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีโอกาสดึงเม็ดเงินมาลงทุนได้ จึงต้องทำให้เกิดความร่วมมือขึ้น โดยต้องยื่นมือเข้าไปช่วยประเทศที่จะเข้ามาด้วย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ต้องร่วมมือทำงานเก็บข้อมูลต่างๆไว้ให้พร้อม
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงกรณีการคาดการณ์จีดีพีของภูมิภาคอาเซียน จากทาง ADB ว่าจะเป็นอย่างไร จะตกต่ำลงหรือไม่ โดยระบุว่า เรื่องนี้ได้คุยกันในภาพรวม และรับทราบฐานข้อมูลของ ADB ที่ได้นำเสนอในที่ประชุมแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของเอเชีย และทั้งโลกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำลงแน่นอน ไม่ใช่แค่ประเทศไทย โดยมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน แม้จะไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนในส่วนของประเทศไทย แต่เราได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการชัดเจนให้ทบทวนกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำการบ้านมากขึ้นเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของประชาชน
รัฐมนตรีช่วยคลัง ยังเปิดเผยถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในระยะใกล้จากกระทรวงการคลังว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง กำลังทำงานอยู่ ทั้งระดับรัฐมนตรีและข้าราชการ รวมถึงกระทรวงอื่นด้วย และสัปดาห์หน้า นายพิชัยชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเรียกประชุมเพื่อขับเคลื่อนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจองค์รวม โดยกางมาตรการทั้งหมดที่มีใหม่ทั้งหมด ว่ามีมาตรการส่วนไหนได้รับผลกระทบบ้าง เช่น ภาคท่องเที่ยว การลงทุน การจ้างงาน ทั้งนี้จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้มาตรการมาสอดรับกับผลกระทบที่เกิดขึ้น
ส่วนกรณีความชัดเจนการแจกเงินหมื่น"ดิจิทัลวอลเล็ต" เฟส 3 ให้กับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน นั้นรัฐมนตรีช่วยคลัง กล่าวว่า ขอให้รอดู ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทบทวนรายละเอียด เมื่อรายละเอียดครบถ้วนแล้วจะแจ้งให้ทราบทีเดียว
