ศึกภาษีสหรัฐ-อียู ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีไวน์-แชมเปญยุโรป 200 %

การค้าโลกตึงเครียดอีกครั้ง หลังจากมีข่าวว่าผู้นำสหรัฐจะขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดจากยุโรป ถึง 200  %


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่า เขามีแผนที่จะจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 200% จากฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรป หลังจากสหรัฐถูกตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีจากสหภาพยุโรป (อียู ) โดยประกาศจะเก็บภาษีสินค้านำเข้ามูลค่า 2.6 หมื่นล้านยูโร (ราว 9.53 แสนล้านบาท) มีผลตั้งแต่ในเดือนเมษายน 2568 นี้ โดยครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการซึ่งรวมถึงวิสกี้และเหล้าเบอร์เบินสหรัฐ ซึ่งก็เป็นมาตรการที่มีขึ้นเพราะต้องการตอบโต้กลับไปยังทรัมป์ ที่ขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม 25% และเพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 


แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้ทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีตอบโต้กลับที่รุนแรงขึ้นกับอียู



ศึกภาษีสหรัฐ-อียู ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีไวน์-แชมเปญยุโรป 200  %

สรุปข่าว

ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีไวน์-แชมเปญจากยุโรป 200 % โต้กลับอียูหลังถูกรีดภาษีวิสกี้

โดยทรัมป์ได้ระบุในแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า


 “สหภาพยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการจัดเก็บภาษีที่ไม่เป็นมิตรและเข้มงวดที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ก่อตั้งขึ้นเพื่อจุดประสงค์เดียวในการเอาเปรียบสหรัฐ เพิ่งจัดเก็บภาษีวิสกี้ 50% ซึ่งถือว่าเลวร้ายมาก หากไม่ยกเลิกภาษีนี้ในทันที สหรัฐจะจัดเก็บภาษี 200% กับไวน์ แชมเปญ และผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ทั้งหมดที่มาจากฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ที่เป็นตัวแทนของอียูในไม่ช้านี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจไวน์และแชมเปญในสหรัฐ”


ทั้งนี้ย้อนกลับไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศว่าจะตอบโต้การเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% ของสหรัฐ โดยยกเลิกการระงับการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐที่มีก่อนหน้านี้ รวมถึงสินค้าในกลุ่มวิสกี้ และจะขึ้นภาษีสินค้าใหม่ๆ ด้วย โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน



ขณะที่ ฮาวเวิร์ด ลัตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า ทรัมป์ไม่พอใจอย่างยิ่งกับการกระทำของสหภาพยุโรป ซึ่งนำไปสู่ภัยคุกคามล่าสุด และสหรัฐยังคงวางแผนที่จะประกาศขึ้นภาษีเพิ่มเติมอีกรอบในเดือนเมษายน คาดว่าประเทศต่างๆ ในยุโรปจะได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวเช่นกัน

   

ด้านสหพันธ์ผู้ส่งออกไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของฝรั่งเศส ( เอฟอีวีเอส ) ออกแถลงการณ์แสดงความไม่พอใจ และตำหนิคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู ที่ทำให้สมาชิกต้องตกเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีสหรัฐ


พร้อมกันนี้มีการคาดการณ์ว่า หากมีการบังคับใช้กำแพงภาษี 200% ไปยังยุโรป จะทำให้ราคาไวน์ของยุโรปอาจแพงขึ้นสามเท่า เช่น จากขวดละ 60 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2,020.20 บาท ) กลายเป็น 180 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6,060.60 บาท )


ข้อมูลจากองค์การการค้าโลก ( WTO ) ระบุว่า มูลค่าการส่งออกไวน์และแชมเปญของยุโรปไปยังสหรัฐ ในปี 2566 อยู่ที่เกือบ 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 175,084 ล้านบาท )

ที่มาข้อมูล : Reuters TRUTH

ที่มารูปภาพ : Freepik canva

avatar

ทิฆัมพร อยู่กำเหนิด