การบินไทยกำไร Q1 พุ่งเกือบหมื่นล้าน พร้อมคืนตลท.อย่างแข็งแกร่ง

การบินไทยกำไร Q1 พุ่งเกือบหมื่นล้าน พร้อมคืนตลท.อย่างแข็งแกร่ง

ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์  ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างปากีสถานและอินเดีย ส่งผลกระทบต่อเส้นทางบินระหว่างประเทศ มีการปรับเปลี่ยนเวลาและเส้นทางการทำการบินในบางเที่ยวบิน ทำให้เพิ่มเวลาบินมากขึ้นเป็น 20 -30 นาทีต่อเที่ยวบิน ทำให้ต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นราว 1 แสนบาทต่อเที่ยวบิน ซึ่งสายการบินอื่นๆ ก็คงกระทบเช่นกัน ซึ่งได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด  

ทั้งนี้จากการเจรจาภาษีของสหรัฐกับชาติๆ ทำให้การบินไทยจำเป็นต้องชะลอการเช่าเครื่องบินในระยะสั้น ที่จะนำมาใช้ในช่วงการรอเครื่องบินใหม่ที่ซื้อเข้ามา โดยจะรอให้การเจรจาจบลง เพื่อจะได้เห็นผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินให้บริการ 77 ลำ และสิ้นปีนี้เพิ่มเข้ามาอยู่ที่ 80 ลำ และก่อนหน้านี้การบินไทยได้สั่งซื้อเครื่องบิน 45 ลำ ซึ่งจะทยอยเข้ามาตั้งแต่ปี 2570 



สรุปข่าว

ดร.ปิยสวัสดิ์เผยสถานการณ์การบินไทยแข็งแกร่ง พร้อมพ้นแผนฟื้นฟู มิ.ย.นี้ หากศาลเห็นชอบ แม้เจอสถานการณ์โลกกระทบต้นทุน แต่ยังตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.9 แสนล้าน ผู้โดยสาร 16.5 ล้านคน ไตรมาสแรกปี 68 ทำรายได้รวม 5.16 หมื่นล้าน กำไรสุทธิ 9,839 ล้านบาท Cabin Factor อยู่ที่ 83.3%

ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์  ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างปากีสถานและอินเดีย ส่งผลกระทบต่อเส้นทางบินระหว่างประเทศ มีการปรับเปลี่ยนเวลาและเส้นทางการทำการบินในบางเที่ยวบิน ทำให้เพิ่มเวลาบินมากขึ้นเป็น 20 -30 นาทีต่อเที่ยวบิน ทำให้ต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นราว 1 แสนบาทต่อเที่ยวบิน ซึ่งสายการบินอื่นๆ ก็คงกระทบเช่นกัน ซึ่งได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด  

ทั้งนี้จากการเจรจาภาษีของสหรัฐกับชาติๆ ทำให้การบินไทยจำเป็นต้องชะลอการเช่าเครื่องบินในระยะสั้น ที่จะนำมาใช้ในช่วงการรอเครื่องบินใหม่ที่ซื้อเข้ามา โดยจะรอให้การเจรจาจบลง เพื่อจะได้เห็นผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินให้บริการ 77 ลำ และสิ้นปีนี้เพิ่มเข้ามาอยู่ที่ 80 ลำ และก่อนหน้านี้การบินไทยได้สั่งซื้อเครื่องบิน 45 ลำ ซึ่งจะทยอยเข้ามาตั้งแต่ปี 2570 



สำหรับสำหรับความคืบหน้าในการออกจากการฟื้นฟูกิจการ อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยศาลล้มละลายกลางกำหนดนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 4 มิถุนายน นี้ ซึ่งหากศาลพิจารณาให้ออกจากแผนได้ในช่วงเดือนมิถุนายน คาดว่าบินไทยจะกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ไม่เกินเดือนสิงหาคม  

ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อการบินไทยออกจากแผนฟื้นฟูและกลับเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ มีหลายฝ่ายความกังวลว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งก็ต้องอยู่ที่กรรมการชุดใหม่จะบริหารเป็นเช่นไร แต่โดยส่วนตัวไม่อยากให้กลับไปเหมือนในอดีตที่มีถูกแทรกแซงทางการเมือง อยากเห็นการทำงานที่เป็นอิสระ และให้เกียรติผู้บริหารบริษัท ที่ได้คัดเลือกกันมาจากความรู้ความสามารถ โดยเชื่อว่าสถานการณ์ของการบินไทยในตอนนี้ มีความแข็งแกร่ง มีสภาพคล่องทางการเงินที่จะเติบโตได้ ซึ่งความเสี่ยงเดียวที่น่ากังวลในตอนนี้ คือ สภาพตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศเท่านั้น ทำให้ตอนนี้การบินไทยยังคงตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่  1.9 แสนล้าน ผู้โดยสาร 16.5 ล้านคน  


สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 51,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3  มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ร้อยละ 83.3 กำไรสุทธิ 9,839 ล้านบาท  และมี EBITDA หลักหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง 12,728 ล้านบาท

ที่มาข้อมูล : การบินไทย

ที่มารูปภาพ : การบินไทย