รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณา ราคาก๊าซหุงต้ม หรือ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เร็วๆ นี้ ก่อนจะสิ้นสุดการตรึงราคา 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) วันที่ 31 มีนาคม 2568
โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาขายปลีกแอลพีจี อยู่ 2.4190 บาทต่อ กก. หรือ 36.28 บาทต่อถังขนาด 15 กก. เพื่อให้ราคาจำหน่ายแอลพีจีในท้องตลาดอยู่ที่ 423 บาทต่อ กก. ตามมติ กบง.
ทั้งนี้ในที่ประชุม กบง.เคยเสนอแนวคิดให้ทยอยปรับขึ้นราคาแอลพีจีครั้งละ 1 บาทต่อ กก. เพื่อลดภาระกองทุนลง แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับ กบง.ว่าจะตัดสินใจตรึงราคาต่อ หรือปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี ที่หากไม่ชดเชยราคาเลยจะส่งผลให้ราคาแอลพีจีอยู่ที่ 30.61 บาทต่อ กก. หรือราคาจำหน่ายแอลพีจีที่แท้จริงอยู่ที่ 459.28 บาทต่อถังขนาด 15 กก.
สรุปข่าว
สำหรับกองทุนน้ำมันได้ตรึงราคาแอลพีจีตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ใช้เงินตรึงราคาประมาณ 46,185 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้กำหนดกรอบวงเงินสำหรับชดเชยราคาแอลพีจีได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ดังนั้น ยังเหลือวงเงินที่ชดเชยราคาได้อีกประมาณ 3,815 ล้านบาท
และกองทุนน้ำมันยังมีรายได้เข้าจากผู้ค้าแอลพีจีประมาณวันละ 20 ล้านบาท หรือประมาณ 600 ล้านบาทต่อเดือน รวมกับรายได้เข้าจากการเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันอีก 331 ล้านบาทต่อวัน หรือ 9,930 ล้านบาทต่อเดือน
จึงส่งผลให้สถานะกองทุน ณ วันที่ 9 มีนาคม 2568 ติดลบ 64,528 ล้านบาท มาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม 18,343 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีติดลบรวม 46,185 ล้านบาท

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)