
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ปัจจุบันมีการใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายในไทย สร้างความไม่เป็นระเบียบและกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มอยู่ในประเทศเกินระยะเวลาที่กำหนด และยังประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เช่น การทำธุรกิจที่กระทบกับคนไทย โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและที่พัก
ทั้งนี้ ในกรณีของนักท่องเที่ยวจีนนั้น แม้รัฐบาลไทยจะร่วมมือกับทางการจีนในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา แต่สถานการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนมาประเทศไทยยังไม่ดีขึ้น และลดลงจาก 20,000-30,000 คนต่อวัน ในปี 2562 เหลือไม่เกิน 10,000 คนต่อวันในปัจจุบัน
โดยคาดว่าจำนวนการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนในปี 2568 อาจไม่ถึงเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 8.5-9 ล้านคน ซึ่งหากสถานการณ์ดังกล่าวยังคงอยู่ ประเทศไทยอาจไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนได้ตามที่คาดหวัง และอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจากจีนเป็นหลัก

สรุปข่าว
ด้านนายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์” นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่า อยากเสนอให้รัฐบาลปรับลดระยะเวลาพักสูงสุดสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 60 วันเหลือ 30 วันเช่นกัน เพื่อให้สามารถควบคุมการพำนักของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศได้ดียิ่งขึ้น และสามารถลดปัญหาความมั่นคงและการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนท่องเที่ยวเห็นด้วยกับการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 93 ประเทศ แต่มีความกังวลว่าการยกเว้นวีซ่าอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มอยู่ในประเทศไทยเกินระยะเวลาที่กำหนด หรือเข้ามาทำธุรกิจที่ไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยว”
นายกสมาคมโรงแรม กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาออกกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการซื้อที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ โดยจำกัดจำนวนยูนิตที่ชาวต่างชาติสามารถซื้อได้ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทย
โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนจำนวนมาก เช่น ภูเก็ตและพัทยา (ชลบุรี) ซึ่งพบว่ามีการซื้อบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมเกือบทั้งโครงการ เพื่อนำมาปล่อยเช่าต่อ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)