“รอยเตอร์ส” อ้างแหล่งข่าวระบุว่า “เทสลา” ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังร่วมมือกับ “ไป่ตู้” (Baidu) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน เพื่อพัฒนาระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติที่มีความล้ำหน้ามากขึ้นสำหรับตลาดจีน
โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา “ไป่ตู้” ได้ส่งทีมวิศวกรจากแผนกแผนที่ไปยังสำนักงานของเทสลาที่กรุงปักกิ่ง เพื่อทำงานร่วมกันในการบูรณาการข้อมูลแผนที่นำทางของไป่ตู้ อาทิ เครื่องหมายแบ่งเลนและสัญญาณจราจร สำหรับเชื่อมกับซอฟต์แวร์ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Full Self-Driving-FSD) เวอร์ชัน 13 ของเทสลา
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่า “ไป่ตู้” ส่งวิศวกรไปจำนวนกี่คน หรือทีมยังทำงานร่วมกับเทสลาอยู่หรือไม่ แต่ย้ำว่าเป้าหมายคือการปรับปรุง FSD เวอร์ชัน 13 เกี่ยวกับท้องถนนในจีน จากการใช้ข้อมูลแผนที่ที่แม่นยำและอัปเดตมากขึ้น
สรุปข่าว
ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างทั้ง 2 บริษัทเกิดขึ้นในจังหวะที่ “เทสลา” ต้องการข้อมูลและเผชิญข้อจำกัดด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดจากรัฐบาลจีนและสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อ “เทสลา” ในการนำระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบเข้าไปใช้ในจีน
ในสหรัฐฯ ระบบขับขี่อัตโนมัติของ “เทสลา” ไม่จำเป็นต้องใช้แผนที่นำทางที่มีความแม่นยำหรืออัปเดต เพราะการฝึก AI ในสหรัฐฯ มีส่วนช่วยให้เทคโนโลยีดีขึ้น
แต่ในจีน “เทสลา” ไม่สามารถฝึกด้วยข้อมูลรถ EV 2 ล้านคันได้ เนื่องจากข้อกฎหมายเรื่องข้อมูลในจีน และบริษัทเผชิญแรงกดดันมากขึ้นจากคู่แข่งในท้องถิ่น อาทิ BYD และเอ็กซ์เผิง (Xpeng) ซึ่งนำเสนอรถยนต์ราคาย่อมเยากว่าและไม่เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับซอฟต์แวร์ในลักษณะนี้
ทั้งนี้ ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ EV ของ “เทสลา” ในจีนลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว แตะที่ร้อยละ 10.4 จากร้อยละ 11.7 ในปี 2566
ขณะที่ในฝั่งของ “ไป่ตู้” ความร่วมมือดังกล่าวอาจช่วยสนับสนุนธุรกิจ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ยังตามหลังคู่แข่งอย่าง “ดีปซีค” (DeepSeek) และ “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) บริษัทแม่ “ติ๊กต็อก” (TikTok)

Adthawan Law
(Adthawan Law)