
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองประธานกรรมการการบินพลเรือน ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 1/2568 โดยที่ประชุมมีการพิจารณาหลายประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของไทยในอนาคต
การประชุมครั้งนี้มีมติเห็นชอบในการปรับปรุงแผนอำนวยความสะดวกในการบินพลเรือนแห่งชาติ ฉบับที่ 2 ปรับปรุงครั้งที่ 00 โดยการปรับปรุงครั้งนี้จะมีการแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการอำนวยความสะดวกในการบินพลเรือน และปรับนิยามศัพท์ในแผนให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการเดินอากาศ ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการบริหารการบินพลเรือนให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สรุปข่าว
อีกหนึ่งการตัดสินใจสำคัญในการประชุม คือ อนุมัติให้กรมท่าอากาศยานปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge :PSC) สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศ เป็นครั้งละไม่เกิน 425 บาท และสำหรับเส้นทางภายในประเทศเป็นครั้งละไม่เกิน 75 บาท โดยจะสามารถเริ่มจัดเก็บได้เฉพาะท่าอากาศยานที่มีการให้บริการจำนวน 3 ระบบ คือ Common Use Terminal Equipment: CUTE, Common Use Self Service: CUSS และ Common Use Bag Drop: CUBD ซึ่งมี 7 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช และท่าอากาศยานพิษณุโลก โดย ทย. ต้องแจ้งให้ กพท. เข้าตรวจสอบความพร้อมของระบบก่อนเรียกเก็บค่าบริการด้วย และต้องแจ้งให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่พร้อมให้บริการทั้ง 3 ระบบดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการอนุมัติการออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนให้กับบริษัทใหม่ 2 ราย ได้แก่ บริษัทสยามวิงส์ แอร์ไลน์ จำกัด และบริษัทอินทิรา (2009) แอร์ จำกัด ซึ่งทั้งสองบริษัทจะเปิดให้บริการการขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์แบบประจำมีกำหนด โดยการพิจารณาครั้งนี้จะส่งเสริมการแข่งขันและความหลากหลายในการให้บริการของสายการบินในประเทศ
อีกหนึ่งมติเห็นชอบในที่ประชุมคือ การขยายระยะเวลาการยกเว้นการเริ่มประกอบกิจการโดยการทำการบินจริง (Actual Flight Operation) ให้กับบริษัทเอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด จากเดิมที่ต้องเริ่มบินจริงภายในวันที่ 27 มกราคม 2568 เป็นภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพื่อให้บริษัทมีเวลาเตรียมความพร้อมในการดำเนินงาน
สุดท้ายที่ประชุมยังเห็นชอบในการต่ออายุใบอนุญาตการบินพลเรือนให้กับบริษัทเอเชี่ยน แอร์โรสเปซ เซอร์วิส จำกัด และอนุญาตให้บริษัทไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เลิกกิจการตามที่บริษัทขออนุญาต โดยการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงการปรับตัวและการพัฒนาในอุตสาหกรรมการบินไทยเพื่อให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของผู้โดยสารในอนาคต
ที่มาข้อมูล : กระทรวงคมนาคม
ที่มารูปภาพ : กระทรวงคมนาคม