

สรุปข่าว
GOLD BULLISH
- ความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐขนาดใหญ่
- การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
GOLD BEARISH
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น
- แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคเป็นขาลง
- แรงเทขายทองคำของกองทุนอีทีเอฟทองคำ
ทำไมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น ราคาทองคำลง
ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงอย่างต่อเนื่องทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน ปัจจัยหลักที่กดดันต่อราคาทองคำคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแตะ 1.33% ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะเร็วขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐขนาดใหญ่ การฉีดวัคซีนโควิด-19 กระจายได้ทั่วถึงมากขึ้นในอนาคต
มาถึงคำถามว่าทำไมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น ราคาทองคำถึงลดลง ทองคำและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งโดยปกติทั้ง 2 สินทรัพย์เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน และมีการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เมื่อดูค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างทองคำกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 5 ปี และ 10 ปีย้อนหลังอยู่ที่ -0.92 และ -0.73 ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยทองคำถูกมองว่าไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเงินปันผล มีเพียงผลตอบแทนที่ได้จากราคาทองคำที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังได้รับดอกเบี้ย ทำให้ตอนนี้นักลงทุนอาจมีทางเลือกว่าจะลงทุนในพันธบัตรดีกว่า ในเมื่ออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรเพิ่มขึ้น
ราคาทองคำทางด้านปัจจัยเทคนิคเกิดสัญญาณ Death Cross
นอกจากปัจจัยทางด้านพื้นฐานของทองคำเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้น ปัจจัยทางด้านเทคนิคของทองคำก็เป็นทางลบอีก ก่อนหน้านี้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำทางด้านปัจจัยเทคนิคเป็นขาลงเนื่องจากราคาทองคำยังไม่สามารถทะลุและยืนเหนือ 1,860 ดอลลาร์ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 200 วันได้ ประกอบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำทางด้านเทคนิคเกิดสัญญาณ Death Cross เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2561 โดยเส้นค่าเฉลี่ยทางเทคนิคระยะสั้น 50 วันตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 200 วันลงมา ทำให้เกิดสัญญาณขายเกิดขึ้นในระยะกลาง อย่างไรก็ดีราคาทองคำทางด้านเทคนิคเริ่มส่งสัญญาณขายมากเกินไป (Oversold) ทำให้อาจมีการรีบาวด์ทางด้านเทคนิคในระยะสั้น
สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ต้องระวังแรงเทขายเช่นกัน เนื่องจากราคาทองคำทางด้านเทคนิคยังเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง ประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรส ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่ง 2 ปัจจัยแรกมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ จีดีพีสหรัฐไตรมาส 4 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่ 2 ตลาดประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น 4.1% ดีขึ้นจากประมาณการครั้งแรกที่เพิ่มขึ้น 4.0% ส่วนปัจจัยลบเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงเทขายทองคำของกองทุนอีทีเอฟทองคำ
สัปดาห์นี้ทองคำ Spot มีแนวรับ 1,750 ดอลลาร์ และ 1,730 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,830 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 24,900 บาท และ 24,650 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 25,550 บาท และ 25,900 บาท
ที่มาข้อมูล : -