ดีอีปิด“ทางรัฐ-ดิจิทัลวอลเล็ต” ปลอม แล้วกว่า 90 ช่องทาง

ดีอีปิด“ทางรัฐ-ดิจิทัลวอลเล็ต” ปลอม  แล้วกว่า 90 ช่องทาง

สรุปข่าว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวง ดีอี โดย ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti Fake New Center หรือ AFNC) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และเครือข่าย  

.


ได้ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินสถานการณ์การกระทำที่เข้าข่ายการก่ออาชญากรรมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเติมเงิน 10,000 ผ่าน Digital Wallet หรือ โครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ซึ่งเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา

.


จากการติดตามตรวจสอบ เฝ้าระวัง ตลอดระยะเวลา 5 วันของการเปิดให้เริ่มลงทะเบียนโครงการฯ พบการกระทำที่เข้าข่ายการก่ออาชญากรรมออนไลน์ ในแพลตฟอร์มต่างๆ และประสานงานดำเนินการปิดกั้นแพลตฟอร์มแล้ว ดังนี้

.


1.แอปพลิเคชันปลอม หลอกลงทะเบียน จำนวน 6 แอปพลิเคชัน 2.เฟซบุ๊ก แฟนเพจปลอม “ทางรัฐ-เงินดิจิทัล” จำนวน 90 เพจ 3.ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน จำนวนกว่า 20 ข่าว 4.เว็บไซต์ปลอม “dga-thai.com” จำนวน 1 เว็บไซต์

.


กระทรวง ดีอี ได้ดำเนินการประสานผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ ทำการปิดกั้นแพลตฟอร์มหลอกลวงทั้งหมดแล้ว พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับมิจฉาชีพอย่างถึงที่สุด โดยถือว่าการกระทำดังกล่าว ทั้งการเปิดแอปฯ เว็บไซต์ เพจปลอม ข่าวปลอม หรือข้อมูลบิดเบือน เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ร้ายแรง

.


สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และความเสียหายต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง เนื่องจากเป็นโครงการสำคัญของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ  และช่วยเหลือประชาชน ซึ่งคนไทยกำลังให้ความสนใจมากที่สุดในปัจจุบัน


ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ที่อาจประสบปัญหา และไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร หรือต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียนฯ นอกเหนือจากการลงทะเบียนผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” 

.


กระทรวง ดีอี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดสถานที่จุดให้บริการ (Walk – in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมเป็นจำนวน 6,107 แห่งทั่วประเทศ เวลาทำการ ดังนี้

.


1.ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ 2.ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ) 3.ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ 4.ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ 5.ธนาคารกรุงไทย จำนวน 900 แห่ง ทั่วประเทศ

.


ขณะที่กลุ่มผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน จะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 โดยรัฐบาลจะมีการแจ้งวิธีการลงทะเบียนและจุดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป

.

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ

digital wallet
ดิจิทัลวอลเล็ต
อาชญากรรมออนไลน์
แอปพลิเคชันปลอม
ทางรัฐ
หลอกลงทะเบียน