

สรุปข่าว
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้ปรับการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 ไทยลดลงจากเดิมในเดือนมกราคม 2567 คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 2.8 เหลือขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 โดยมีช่วงคาดการณ์ ที่ร้อยละ 1.9 ถึง 2.9 ซึ่งขยายตัวจากปี 2566 ที่ขยายร้อยละ 1.9
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจปรับตัวลดลงมี 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1.การส่งออกหดตัวมากกว่าคาดการณ์ โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมไตรมาส 1 ปี 67
2.การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัว ในหมวดยานยนต์และชิ้นส่วนในไตรมาส 1
3.ภาคการเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและปรากฎการณ์เอลนีโญ 4.ภาคการคลังที่ยังคงใช้การเบิกจ่ายตามปีงบประมาณปี 2566 ไปพลางก่อน
อย่างไรก็ตามแม้เศรษฐกิจะขยายตัวลดลง แต่เสถียรภาพภายในประเทศมั่นคง โดยคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี ตามการปรับตัวลดลงของราคาสินค้าอาหาบางกลุ่ม ราคาสินค้าหมวดพลังงานลดลงจากมาตรการช่วยเหลือค่ครองชีพ ขณะที่เสถียรภาพภายนอกประเทศ ดุลบริการมีแนวโน้มเกินดุลตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดจะเข้ามาในปีนี้ 35.7 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้เงินดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล 10,000 ล้านบาท
ส่วนมาตรการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่รัฐบาลกำลังเดินหน้านั้น หากสามารถมีการใช้จ่ายได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปี 2567 ให้เติบโตได้เกินร้อยละ 3 และอาจสูงถึงร้อยละ 3.3
นอกจากนี้ความเสี่ยงที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในที่ต้องติดตามใกล้ชิด ได้แก่ 1.ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ 2.ความผันผวนของตลาการเงินโลก และ3.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าของไทย โดยเฉพาะประเทศจีน
ภาพจาก: AFP
ที่มาข้อมูล : -