

สรุปข่าว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมีนาคม 2567 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 66 เป็นต้นมา
เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน และผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลางที่อาจยืดเยื้อบานปลาย อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวล่าช้าของเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้าค่าครองชีพสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยและทั่วโลก ตลอดจนสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน กับอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซาที่ยังคงยืดเยื้อ
ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาในเชิงลบต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก ธุรกิจโดยทั่วไป และการจ้างงานในอนาคต โดยยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การที่งบประมาณแผ่นดินยังไม่ถูกใช้ แม้รัฐบาลเริ่มมีสัญญาณที่จะเร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 67 ใช้ในเดือนเมษายน 67 แต่สัญญาณที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคมชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 1/67 ดูแผ่วลง ซึ่งคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 1.5-2.0
ทั้งนี้ ภาพความเชื่อมั่นยังมีสัญญาณค่อยๆ ฟื้นตัว และมีทิศทางขาขึ้นต่อเนื่องจากดัชนีที่ปรับตัวดีขึ้นมาตลอด 7 เดือน ทำให้ดัชนีเฉลี่ยในไตรมาส 1/67 ความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการยังอยู่นทิศทางขาขึ้น
ที่มาข้อมูล : -