ทดสอบ XQ-58A Valkyrie ก้าวสำคัญสู่นักบินร่วมอัจฉริยะเคียงข้าง F-16 และเครื่องบินขับไล่แห่งอนาคต

ทดสอบ XQ-58A Valkyrie ก้าวสำคัญสู่นักบินร่วมอัจฉริยะเคียงข้าง F-16 และเครื่องบินขับไล่แห่งอนาคต

กองทัพอากาศสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีการรบทางอากาศแห่งอนาคตอย่างก้าวกระโดด โดยล่าสุดได้มีการทดสอบการบินร่วมระหว่างอากาศยานไร้คนขับ XQ-58A Valkyrie กับเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงอย่าง F-16C Fighting Falcon และ F-15E Strike Eagle ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการบูรณาการระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรในสนามรบ

สรุปข่าว

กองทัพอากาศสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการทดสอบโดรน XQ-58A Valkyrie บินร่วมกับเครื่องบินขับไล่ F-16 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแนวคิด "นักบินร่วม" (Loyal Wingman) โดยโดรนติดอาวุธนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวคูณกำลังรบ เพิ่มจำนวนและความยืดหยุ่นให้ฝูงบินขับไล่ในอนาคต

รู้จักอากาศยานไร้คนขับ XQ-58A Valkyrie

สำหรับอากาศยานไร้คนขับ XQ-58A Valkyrie มีลักษณะเป็นอากาศยานรบไร้คนขับ (UCAV) ที่ถูกออกแบบและพัฒนาโดยบริษัท Kratos Defense & Security Solutions ร่วมกับห้องปฏิบัติการวิจัยของกองทัพอากาศสหรัฐฯ (AFRL) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเป็นนักบินร่วม (Loyal Wingman) หรืออากาศยานรบร่วม (Collaborative Combat Aircraft - CCA) ที่จะปฏิบัติภารกิจเคียงข้างเครื่องบินขับไล่แบบมีคนขับ

การออกแบบที่เน้นความคล่องตัวและล่องหน (Stealth) รูปทรงล้ำสมัยมีลำตัวเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู (Trapezoidal) พร้อมปีกที่ลู่ไปด้านหลัง และแพนหางรูปตัว V (V-tail) ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ช่วยลดการสะท้อนของเรดาร์ ทำให้ตรวจจับได้ยาก ช่องรับอากาศแบบซ่อน สำหรับเครื่องยนต์ถูกติดตั้งไว้ที่ส่วนบนของลำตัว ช่วยลดการตรวจจับจากเรดาร์ภาคพื้นดิน ขนาดกะทัดรัด  มีความยาวประมาณ 9.1 เมตร และมีปีกกว้าง 8.2 เมตร ทำให้มีขนาดเล็กกว่าเครื่องบินขับไล่ทั่วไป

สมรรถนะการบินสามารถทำความเร็วได้สูงในระดับใกล้เสียง (High-subsonic) ที่ประมาณ 0.72 มัค หรือประมาณ 882 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีพิสัยการบินไกลถึง 3,000 ไมล์ทะเล หรือ 5,556 กิโลเมตร ทำให้สามารถปฏิบัติภารกิจในระยะไกลได้ เพดานบินสูงถึง 45,000 ฟุต

การทดสอบอากาศยานไร้คนขับ XQ-58A Valkyrie

ห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพอากาศสหรัฐฯ (AFRL) ได้เปิดเผยถึงการฝึกซ้อมครั้งล่าสุด ที่นักบินขับไล่สามารถควบคุมโดรน Valkyrie จำนวน 2 ลำ ได้โดยตรงจากห้องนักบินของตนเอง แม้รายละเอียดเชิงลึกของการทดสอบยังคงถูกเก็บเป็นความลับ แต่เป้าหมายหลักคือการสาธิตความก้าวหน้าในการผสานระบบอากาศยานแบบมีคนขับและกึ่งอัตโนมัติเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์

การพัฒนานี้ไม่ได้เป็นเพียงการทดสอบการบินร่วมครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้ XQ-58A เคยปฏิบัติภารกิจร่วมกับเครื่องบินรบสเตลธ์อย่าง F-22 และ F-35A ในช่วงปลายปี 2020 ในฐานะ "เกตเวย์" สื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบลับเฉพาะระหว่างเครื่องบินรบยุคที่ 5 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่หลากหลายของโดรนรุ่นนี้

ศักยภาพของ XQ-58A Valkyrie มากกว่าแค่อาวุธเสริม

อากาศยานไร้คนขับ XQ-58A Valkyrie ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Kratos ถูกออกแบบมาให้เป็นอากาศยานรบต้นทุนต่ำที่สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างยืดหยุ่น โดยมีความสามารถในการบรรทุกอาวุธทั้งในช่องเก็บภายในลำตัวและที่จุดติดตั้งใต้ปีก จากรายงานระบุว่า Valkyrie สามารถติดตั้งระเบิดนำวิถีขนาดเล็ก GBU-39/B (SDB) ได้สูงสุดถึง 4 ลูก หรือขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง AIM-120 AMRAAM จำนวน 2 ลูก

นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาอากาศยานไร้คนขับ XQ-58B ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับภารกิจกดดันและทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึก (Suppression of Enemy Air Defenses - SEAD) 

ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และความยืดหยุ่นในสนามรบ

ห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพอากาศสหรัฐฯ (AFRL) เน้นย้ำว่า การบูรณาการระบบอากาศยานที่มีคนขับและไม่มีคนขับเข้าด้วยกัน จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในสมรภูมิอนาคต 

แนวคิดนักบินร่วม (Loyal Wingman) นี้ จะช่วยเพิ่มมวลหรือจำนวนอากาศยานในปฏิบัติการ ความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนยุทธวิธี และความยืดหยุ่นในการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลายและซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยโดรนอย่าง XQ-58A จะทำหน้าที่เป็นตัวคูณกำลังรบ ลดภาระของนักบิน และเพิ่มความสามารถในการรับรู้สถานการณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จของภารกิจในท้ายที่สุด

การทดสอบที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่แค่การพัฒนาโดรนติดอาวุธ แต่คือการวางรากฐานสำหรับยุทธวิธีการรบทางอากาศรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานความสามารถของมนุษย์เข้ากับปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติ เพื่อครองความเหนือกว่าในน่านฟ้าต่อไป

Thailand Web Stat