“โดรนบิน” เก็บขยะจากยอดเขา “เอเวอเรสต์” พร้อมส่งอุปกรณ์จำเป็นให้นักปีนเขา

“โดรนบิน” เก็บขยะจากยอดเขา “เอเวอเรสต์” พร้อมส่งอุปกรณ์จำเป็นให้นักปีนเขา

ยอดเขาเอเวอเรสต์ สถานที่ที่สูงที่สุดในโลก กำลังเผชิญปัญหาขยะสะสมจากบรรดานักปีนเขา เพื่อแก้ปัญหานี้ จึงมีบริษัทผู้ให้บริการโดรนบินในเนปาล ที่พลิกโฉมการจัดการขยะและการขนส่งอุปกรณ์สำคัญ ด้วยการใช้โดรนขนของขึ้นสู่จุดอันตราย และนำขยะกลับลงมาอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ยอดเขาที่เคยเป็น "กองขยะที่สูงที่สุดในโลก" เริ่มกลับมาสะอาดขึ้น

สรุปข่าว

บริษัท Airlift Technology ในเนปาลใช้โดรน DJI FlyCart 30 แก้ปัญหาขยะสะสมบนยอดเขาเอเวอเรสต์ โดรนขนส่งอุปกรณ์จำเป็นขึ้นไป และนำขยะหนักกว่า 1,000 กิโลกรัมลงมาจากแคมป์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2024 บริการนี้ช่วยลดความเสี่ยงให้นักปีนเขาและลูกหาบ ซึ่งปกติใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางข้ามจุดอันตราย ด้วยการบินเพียง 3 นาที โดรนจะช่วยกำจัดขยะมหาศาลที่ยังคงสะสมอยู่บนยอดเขาเอเวอเรสต์อย่างต่อเนื่อง

บริการนี้เป็นของบริษัท แอร์ลิฟต์ เทคโนโลยี (Airlift Technology) ที่นำระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAVs) บินขึ้นไปบนยอดเขาเอเวอเรสต์ เพื่อขนส่งอุปกรณ์ปีนเขาที่สำคัญ ข้ามรอยแยกอันตราย และใช้โดรนลำเดิมขนขยะกลับลงมาจากภูเขา โดยเฉพาะบริเวณแคมป์ที่เต็มไปด้วยเต็นท์ขาด ๆ ซองอาหาร ขวดออกซิเจนเปล่า และแม้กระทั่งของเสียที่นักปีนเขาทิ้งไว้


บริษัทเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2024 พบว่าเป็นวิธีที่ช่วยจัดการปัญหาขยะบนเขาสูงได้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยสถิติล่าสุดในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2025 พบว่าสามารถกำจัดขยะได้แล้วกว่า 1,000 กิโลกรัม และยังช่วยในการขนย้ายอุปกรณ์ และลดความเสี่ยงให้นักปีนเขาและลูกหาบได้อีกด้วย


สำหรับโดรนที่ใช้จะเป็นรุ่น ดีเจไอ ฟลายคาร์ต สามสิบ (DJI FlyCart 30) ซึ่งสามารถบรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 15 กิโลกรัม รองรับการขนส่งอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น ขวดออกซิเจน บันได และเชือก 


โดรนจะบินจากค่ายฐานเอเวอเรสต์ (Everest Base Camp) ที่ความสูงระดับ 5,364 เมตร ไปยังบริเวณค่าย 1 ที่ความสูง 6,065 เมตร ส่วนขากลับก็จะบินขนขยะลงมา ใช้เวลาบินเพียง 3 นาที หากอยู่ในสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย

ซึ่งการเดินทางนี้ ปกติแล้ว ไกด์ชาวเชอร์ปา (Sherpa guide) หรือชนเผ่าพื้นเมือง ที่มักจะรับทำหน้าที่เป็นไกด์และลูกหาบในการปีนเขา จะต้องใช้เวลา 6-7 ชั่วโมงในการข้ามธารน้ำแข็งคุมบู (Khumbu Icefall) หนึ่งในจุดที่อันตรายและท้าทายที่สุดบนเส้นทางปีนเขาเอเวอเรสต์ เนื่องจากเต็มไปด้วยรอยแยก และก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่พังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ


นับตั้งแต่ปี 2024 มีผู้คนกว่า 7,000 คน ที่ปีนขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งมีความสูง 8,850 เมตร บริษัทจึงหวังว่าบริการนี้จะเป็นเครื่องมือใหม่ในการช่วยกำจัดขยะจำนวนมหาศาล ที่ยังคงเหลืออยู่ในค่ายต่าง ๆ คาดว่ามีมากถึง 50 ตัน และยังคงสะสมไปเรื่อย ๆ เนื่องจากการปีนเขาที่ได้รับความนิยมมานานหลายทศวรรษ และการควบคุมที่หละหลวมในพื้นที่

Thailand Web Stat
ข่าวเด่นวันนี้
Icon