เสียวหมี่เปิดตัวสมาร์ทโฟน Xiaomi 15 Series พร้อมเปิดตัว Xiaomi Pad 7 Series และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย

Xiaomi 15 Ultra ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ของกล้องคลาสสิก ซึ่งมาใน 3 สีสวยให้เลือก ได้แก่ Black, White, และ Silver Chrome หน้าจอ WQHD+ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดคมชัดถึง 3200 x 1440 และความหนาแน่นของพิกเซล 522 ppi ความสว่างสูงสุด 3200 nits ทำให้หน้าจอจะยังคมชัดในทุกสภาพแสงและสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดจ้าหรือแสงสลัว ความสว่างสูงสุด 3200 nits มี 1Hz Always-Active display เซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออัลตราโซนิก มีโครงสร้างที่ทนทานด้วย Xiaomi Guardian, กระจก Xiaomi Shield Glass 2.0, กรอบอะลูมิเนียม CNC, กระจก Corning® Gorilla® Glass 7i

ที่มาของภาพ
Xiaomi Thailand

หัวใจสำคัญของรุ่นนี้คือระบบกล้อง คือกล้องหลัก Leica 23 มม. ขนาด 1 นิ้วชั้นนำของอุตสาหกรรมและเซ็นเซอร์รับภาพ Sony LYT-900 ความละเอียด 50MP เพื่อภาพที่คมชัดที่เก็บทุกรายละเอียด ทั้งนี้ตัวอุปกรณ์ยังมาพร้อมกับเลนส์ออปติคอล Leica Summilux ที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่ ƒ/1.63 ระยะโฟกัสตั้งแต่ 23 มม. 28 มม. และ 35 มม. รวมไปถึงช่วงไดนามิกที่สูงถึง 14EV และด้วยองค์ประกอบเหล่านี้จึงทำให้ความสามารถของกล้องของ Xiaomi 15 Ultra นั้นมีประสิทธิภาพการถ่ายภาพที่น่าทึ่งได้ทั้งในสภาวะแสงน้อยหรือยามค่ำคืนก็ตาม สำหรับการถ่ายภาพบุคคลและภาพสตรีท มีกล้องเทเลโฟโต้ Leica 70 มม. และ 100 มม. (200MP) และกล้องอัลตราไวด์ Leica 14 มม.

สำหรับการถ่ายวีดีโอ Xiaomi 15 Ultra มาพร้อมกับไมโครโฟน 4 ตัว ที่รองรับ Dolby Vision® 4K 60fps และ 10-bit Log มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และ EIS สามารถถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่น 4K 120fps อีกทั้งรุ่นนี้มาพร้อมกับชุดอุปกรณ์กล้อง Xiaomi 15 Ultra Photography Kit Legend Edition

ที่มาของภาพ
Xiaomi Thailand

สำหรับอีกหนึ่งรุ่นเรือธงของการเปิดตัวในครั้งนี้ คือรุ่น Xiaomi 15 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายที่พกพาได้ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Black, White, Green และสีพิเศษ Liquid Silver ที่โดดเด่นด้วยเส้นโค้งระยิบระยับอันน่าดึงดูดที่ทำมาจากกระจกที่ถูกดัดด้วยความร้อน มีกรอบอะลูมิเนียมโค้งมน แข็งแรงขึ้น 33% อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 94% ขอบจอบาง 1.38 มม.โดยเทคโนโลยี LIPO ที่ทำให้ตัวเครื่องบางเป็นพิเศษ ใช้หน้าจอ AMOLED 6.36 นิ้ว (2670 x 1200), 460 ppi, ความสว่าง 3200 nits แผงหน้าจอ M9 ลดการใช้พลังงาน 10% และสามารถป้องกันแสงสีฟ้า รับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland

สำหรับการถ่ายภาพ Xiaomi 15 มีพร้อมกับกล้องสามตัว ระยะโฟกัส 14 มม. ถึง 120 มม. โดยมีกล้องหลักคือ Leica Summilux, เลนส์แอสเฟอริคัล 7P, รูรับแสง ƒ/1.62, เซ็นเซอร์ Light Fusion 900 กล้องเทเลโฟโต้ลอยตัว Leica 60 มม. 50MP, ถ่ายมาโครใกล้ 10 ซม. และกล้องอัลตราไวด์ Leica 14 มม. 50MP, รูรับแสง ƒ/2.2 รวมถึงมีโหมด Fastshot ที่ถ่ายภาพสตรีทเร็วถึง 0.6 วินาที 

สำหรับการถ่ายวีดีโอ Xiaomi 15 มาพร้อมกับ Xiaomi Master Videography ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายวิดีโอได้ในคุณภาพระดับสตูดิโอ โดยกล้องหลักรองรับการบันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30fps และวิดีโอ Dolby Vision ที่ 4K 60fps ในทุกระยะโฟกัส รวมไปถึงไมโครโฟนที่มีมาให้ถึง 4 ตัวที่จะช่วยบันทึกเสียงที่สมจริงและครอบคลุมเพื่อให้ได้กลิ่นไอของภาพยนตร์อย่างแท้จริง

ทั้งสองรุ่นนี้ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมระบบระบายความร้อน IceLoop ใช้งานหนักได้ลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รองรับชาร์จไว ทั้งสองรุ่นใช้ระบบจัดการแบตเตอรี่ Xiaomi Surge เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน โดย Xiaomi 15 Ultra มาพร้อมแบตเตอรี่ 5410mAh ที่รองรับไฮเปอร์ชาร์จ 90W และไฮเปอร์ชาร์จแบบไร้สาย 80W ในขณะที่ Xiaomi 15 มาพร้อมแบตเตอรี่ 5240mAh ที่รองรับไฮเปอร์ชาร์จ 90W และไฮเปอร์ชาร์จแบบไร้สาย 50W

อีกทั้ง Xiaomi 15 Series มาพร้อมกับ Xiaomi HyperOS 2 ที่อัปเกรดใหม่ โดยมีนวัตกรรมหลักคือ HyperCore, HyperConnect และ HyperAI ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล เชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มได้ดีขึ้น และมีฟีเจอร์ AI ที่ทรงพลัง เช่น AI Writing, AI Speech Recognition และเครื่องมือแก้ไขภาพ/วิดีโออัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับ Google เพื่อให้ Google Gemini เข้าถึงแอป Xiaomi ได้โดยตรง ส่วน HyperCore เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลักที่ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Xiaomi 15 Ultra รุ่นความจุ 16GB + 1TB สี Silver Chrome วางจำหน่ายในราคา 46,990 บาท ที่ Xiaomi Store และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee, TikTok Shop สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 4 - 14 มีนาคม 2568

Xiaomi 15 Ultra (16GB+512GB) ราคา 42,990 บาท Xiaomi 15 (12GB+512GB) ราคา 29,990 บาท และ Xiaomi 15 (12GB+256GB) ราคา 26,990 บาท ทุกรุ่นวางจำหน่ายที่ Xiaomi Store

ทั้งนี้ภายในงานยังมีการแถลงการเปิดตัว Xiaomi Pad 7 Series, Xiaomi Watch S4, Xiaomi Buds 5 Pro (WiFi), Xiaomi Buds 5 Pro ด้วย 

โดย Xiaomi Pad 7 Pro มี 2 รุ่น ได้แก่ 12GB+512GB (18,990 บาท, Matte Glass 20,990 บาท) และ 8GB+256GB (15,990 บาท) ส่วน Xiaomi Pad 7 รุ่น 8GB+256GB ราคา 12,990 บาท Xiaomi Pad 7 รุ่นความจุ 8GB + 128GB ราคา 10,990 บาททุกรุ่นมี 2 สี (Gray, Blue)

และ Xiaomi Buds 5 Pro มี 2 สี (ขาว, เทา) ราคาพิเศษ 5,990 บาท, และรุ่น Wi-Fi สีดำโปร่งแสง ราคาพิเศษ 6,490 บาท (จำหน่ายเฉพาะ Xiaomi Store บางสาขาและออนไลน์) ทั้งสองรุ่นจำหน่ายถึง 31 มี.ค. 2568 ส่วน Xiaomi Watch S4 มี 3 สี (เงิน, ดำ, รุ้ง) ราคาพิเศษ 4,990 บาท (เงิน, ดำ) และ 5,490 บาท (รุ้ง) จำหน่ายถึง 31 มี.ค. 2568 

ทั้งนี้เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อื่นๆ อีกได้แก่ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ Xiaomi Smart Band 9 Pro สี White วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 2,690 บาท พาวเวอร์แบงค์ Xiaomi 212W HyperCharge Power Bank 24500 วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 3,390 บาท เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Pet Care Air Purifier วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 3,490 บาท และ เครื่องปรับอากาศ Mijia Air Conditioner Pro Eco EGAT Label No.5 with 3 Stars 12000BTU Inverter และ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi Electric Scooter Elite จะวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้